คนเลี้ยงหมู “ชงเงินกู้”รัฐบาล 10,000 ล้านฟื้นฟูฟาร์มหมูพังดันราคาแพง

พัทลุง-คนเลี้ยงหมู “ชงเงินกู้” รัฐบาล 10,000 ล้านบาทดอกเบี้ยต่ำ ฟื้นฟูหมูเสียหายจากโรคระบาดหลายหมื่นล้านบาท คน “เลี้ยงหมู” พัทลุง เฮ ราคา 100 บาท / กก. ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ พอได้ฟื้นตัวหลังจากซบมา 3-4 ปี

วันที่ 5 ธันวาคม 2565 นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยว่า วันนี้ทางกรมปศุสัตว์ กับนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจากทุกภาคทั่วประเทศ ได้ประชุมหารือร่วมกันที่กรมปศุสัตว์ ทั้งนี้จากการหารือได้หัวข้อสรุปที่สำคัญที่สุด คือผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศจะทำการขอกู้เงินดอกเบี้ยต่ำจากรัฐบาลประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อนำมาให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรฟื้นฟูพัฒนาในการเลี้ยงสุกรใหม่

ภายหลังจากที่ผู้เลี้ยงสุกรได้รับความเสียหายสุกรเสียชีวิตเป็นจำนวนมากทั่วประเทศจากสถานการณ์โรคระบาดเพิร์สเป็นเงินหลายหมื่นล้านบาท

“ข้อเสนอนี้เพื่อนำเงินมาปรับปรุงระบบการเลี้ยง การป้องกัน ให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากโรคระบาดเพิร์สจะกลับมาเลี้ยงกันใหม่ นอกจากนั้นยังมีการหารือในหลายประเด็น”

นายปรีชา กล่าวอีกว่า ประการสำคัญต้องขอแสดงความยินดีต่อเกษตรกรเลี้ยงสุกรรายย่อย จ.พัทลุง ที่ขายสุกรมีชีวิตได้ราคาโดยเฉลี่ย 100 บาท / กก. ซึ่งราคาขยับขึ้นประมาณอาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งเป็นราคาที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของการเลี้ยงสุกร

แต่ว่าแม้ราคาจะขึ้นกำไรก็ยังไม่ค่อยดี เพราะว่าต้นทุนการผลิตสูงมากโดยสุกร 1 ตัว ราคาอาหารหมู 70 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาราคาลูกสุกร รองลงมาค่าวัคซีน ค่ายารักษาโรค เฉพาะพ่นยาจะมีถึง 3 ด่าน ก่อนออกและเข้าฟาร์มสุกร

นายปรีชา กล่าวอีกว่า สำหรับ จ.พัทลุง เป็นแหล่งเลี้ยงสุกรรายใหญ่ของภาคใต้ เป็นสุกรของเกษตรกรรายย่อยประมาณ 20,000 แม่พันธุ์จากตัวเลขเดิม นอกนั้นจะเป็นของรายใหญ่ โดยภาพรวมทั่วภาคใต้ มีประมาณ 100,000 แม่พันธุ์ซึ่งเป็นตัวเลขเดิม

“โดยเฉพาะ จ.พัทลุง ผู้เลี้ยงรายย่อยตอนนี้ขวัญกำลังใจดีขึ้น เป็นโอกาสลืมตาอ้าปากได้ จาก 3-4 ปีที่ประสบปัญหามาตลอดที่ราคาไม่เคยเสถียร”

นายปรีชา กล่าวอีกว่า เมื่อมีสภาพเช่นนี้อย่าใช้วิธีควบคุมโดยนำเอาสุกรจากต่างประเทศนำเข้ามา เพราะคนเลี้ยงที่เจอโรคเพิร์สระบาดที่ผ่านมาจะกลับมาเลี้ยงกันอีกระลอกก็จะลังเลไม่กล้าตัดสินใจจะเลี้ยงหรือไม่ และเมื่อรายเก่าที่ได้รับความเสียหายมาก่อนกลับเข้ามาเลี้ยงสุกรใหม่อีก

“ไม่นานก็จะเกิดภาวะสมดุลก็จะเกิดภาวะสมดุล ประมาณ 6 เดือน หรือ 1 ปี ราคาจะเข้าสู่ภาวะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ทั้งนี้แต่ถ้าไม่เกิดโรคระบาดเกิดขึ้นมาอีกระลอก”

นายปรีชา กล่าวว่า และสำหรับเทศาลตรุษจีน ที่จะถึงเร็ว ๆ นี้ สุกรราคาประมาณว่าจะบวกขยับไม่มากถ้าสูงมาก ผู้บริโภคก็จะกระทบ”.

Related posts