นศ.ช่างอุตสาหกรรม ปวช.2 ถูกอริยิงดับหน้าบ้าน ย่านรามคำแหง 58/3 เผยแม่เห็นลูกนอนจมกองเลือดต่อหน้า ขณะที่คนร้ายเป็นชาย 2 คนขี่ จยย.หลบหนีลอยนวล ผกก.หัวหมาก คาดอาจเป็นฝีมือของคู่อริเก่า
พ.ต.ท.ภาสกร มณีรัตน์ รอง สว. (สอบสวน)สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 ส.ค. 2566 มีเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย เหตุเกิดหน้าบ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามคำแหง 58/3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยมูลนิธิสยามร่วมใจ
ในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อภายหลัง คือ นายจตุพงศ์ ศุภชนกิจ หรือ ราม อายุ 16 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ ปวช.ชั้นปีที่ 2 มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ชายโครงด้านขวา 2 นัด ช่วงอกด้านขวา อีก 1 นัด นอนหมดสติอยู่อาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมกับปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตแบบต่อเนื่องก่อนส่งโรงพยาบาลรามคำแหงทันที อย่างไรก็ตาม ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีลอยนวลเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย นอกจากนี้ยังพบ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีขาวแดง ทะเบียน 8 กธ 5644 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่ใกล้กัน
นางขวัญจิตรา ศุภธนกิจ อายุ 48 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนเองจะไม่บอกว่าลูกชายเป็นเด็กคนดี แต่ลูกไม่เคยหาเรื่องใคร สมัยเรียนมัธยมต้น ก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร พอจบ ม.3 น้องราม ลูกชายของตน เข้าเรียนสายอาชีวะ ซึ่งเรียนอยู่ ปวช.2 ก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่ก็เคยเตือนประจำว่าให้ระมัดระวังตัว
แม่ของผู้ตาย กล่าวต่อว่า แต่ถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ลูกชายของตนเองมีปัญหากับ เพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้น โดยเข้าใจว่าลูกชายของตนขี่รถมอเตอร์ไซค์ไล่ แต่น่าจะเป็นการเข้าใจผิด จึงมีการนัดเคลียร์กัน ซึ่งกลายเป็นว่าลูกชายของตนเองถูก นายนิว คู่กรณี ใช้มีดฟันที่บริเวณมือและหลัง ได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส มือเย็บแผลประมาณ 30 เข็ม โดยมีการแจ้งความไว้ และพูดคุยไกล่เกลี่ยกับทางญาติผู้ก่อเหตุ ซึ่งทางญาติผู้ก่อเหตุ ยินดีชดใช้ค่าเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท ส่วนตัวเลยคิดว่าเรื่องนี้น่าจะจบแล้ว สุดท้ายเพิ่งมารู้ได้ไม่กี่วัน ว่า นายนิว ฝากเพื่อนมาบอกว่า ไม่ยอม และจะเอาเงิน 30,000 บาทคืน ซึ่งไม่รู้ว่า เหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นอย่างไรต่อ
นางขวัญจิตรา กล่าวอีกว่า จนกระทั่งวันนี้ ตนเองนั่งเย็บผ้าอยู่ในบ้าน ช่วงเกือบบ่ายสามซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกชายกลับจากโรงเรียนพอดี ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์พุ่งชนประตูดัง พร้อมได้ยินเสียงอาวุธปืน ดัง 4 นัด ตอนนั้นวิ่งไปก็เห็นลูกชายนอนลงกับพื้นแล้ว ขณะที่ผู้ก่อเหตุมา จยย.ซ้อนท้ายมา 2 คน หลบหนีไป ส่วนตัวรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สภาพจิตใจตอนนี้ย่ำแย่มาก เนื่องจากมีลูกชายคนเดียว ก็หวังพึ่งว่าจะให้เป็นเสาหลักของบ้าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความสงสัยว่าจะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เก่า ซึ่งตนเองมองว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจมาก่อเหตุ โดยดูจากการแต่งกายมิดชิด สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ เสื้อแขนยาวต้องเตรียมการไว้ก่อนแน่นอน ยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ภาสกร กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าเป็นอริผู้เสียชีวิต ได้ประสานฝ่ายสืบสวนดำเนินการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.