ทนายตั้ม ขอให้ แม่แตงโม นิดา “เฮง ๆ ปัง ๆ”ชี้ การเยียวยาอาจทำให้น้ำหนักของคดีเบาลง แต่คดีอาญาไม่สามารถยอมความได้
วันนี้ (4 มี.ค. 65) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เปิดเผยว่า ตนเองเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน คดีการเสียชีวิตของแตงโม นิกา พัชรวีระพงษ์ และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำลองเหตุการณ์การพลัดตกเรือ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า บาดแผลของแตงโมบริเวณขาด้านขวา เกิดจากใบพัดเรือ และหางเสือเรือ (ฟิน) ทราบมาว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ย้ายเรือ Mercury Cobalt 25 เก็บไว้เป็นวัตถุพยานแล้ว
ทนายตั้ม เล่าว่า วันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับติดต่อจากบุคคลหนึ่งให้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนแตงโม ได้แก่ ปอ โรเบิร์ต จ๊อบ พูดคุยถึงเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุไม่เกิน 15 นาที ทั้งหมดกังวลว่า จะถูกดำเนินคดี และเกรงว่าแตงโมจะเสียชีวิต จากนั้นจึงเจอกับกระติก แต่ไม่ได้พูดคุยอะไร ยืนยันว่า ไม่ได้มีการพูดคุยขอให้ตนเองไปเป็นทนายในคดีนี้
ส่วนที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส ยอมรับว่าค่อนข้างตกใจ “ผมมีลูก ประเมินค่าลูกไม่ได้ ไม่รู้จะตอบยังไง ขอให้แม่เฮง ๆ ปัง ๆ”
ประเด็นเรื่องเงินเยียวยา 30 ล้านบาทแลกกับการจบคดี ทนายตั้ม บอกว่า ผู้เสียหายในคดีนี้มีอยู่ 2 คน คือ แม่ และพี่ชาย หากแม่รับเงินเยียวยา อาจทำให้น้ำหนักของคดีนี้เบาลง แต่ส่วนของคดีอาญา ไม่สามารถยอมความกันได้ หากผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ อาจลงโทษสถานเบา
ขณะที่ประจักษ์พยานในคดีอย่างโบ ไทรอัมส์พ คิงดอม แม้จะไม่ใช่ประจักษ์พยานโดยตรง แต่ถือเป็นพยานแวดล้อม เชื่อว่าสิ่งที่กระติกเล่าให้โบฟัง เป็นความจริง และหากกระติกให้การไม่ตรงกับโบ อาจเข้าข่ายให้การเท็จ
สำหรับประกันอุบัติเหตุ 1,000,000 บาท ไม่สามารถยกเลิกสิทธิการได้รับผลประโยชน์ที่เป็นชื่อ “อีสเตอร์” ลูกสาวของกระติกได้ หรือจีดสรรให้ผู้อื่นได้ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของแตงโม อีกทั้งการแบ่งเงินจากผู้เยาว์ต้องขอคำสั่งศาล
ทนายตั้ม ย้ำว่า จะไม่รับเป็นทนายความของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เรื่องนี้อย่าเห็นแก่ใคร ขอให้เห็นแก่แตงโม โดยจุดจบของเรื่องนี้จะเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ ขอให้พนักงานสอบสวนออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริง