ภายหลังจากที่”พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย” หรือ “ติ๋ม ทีวีพูล” พร้อมด้วย “เต้-กันต์พงษ์ ศกุณต์ไชย” ลูกชาย ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงประเด็นการประกาศลาออกจากรายการของ “ทิดมหาสมปอง นครไธสง”ล่าสุดได้ออกจากบ้านไปแล้วนั้น พร้อมกับบอกเล่าสาเหตุต่างๆ
โดย” ทิดมหาสมปอง”ได้ไลฟ์สด”ชวนจิบกาแฟ”ว่า ความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น”เจ๊ติ๋ม” เขาชวนเข้าไปอยู่ในบ้าน หลังจากสึกโดย ไม่ได้ไปขอ แต่เขาเสนอมา ก็ตอบว่าได้ เป็นเรื่องของการพูดคุยกัน
ส่วนเรื่องสัญญากับทาง เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ที่เป็นประเด็น สำหรับตนปัญหาคือลักษณะรูปแบบของรายการเพราะต้องถ่ายทำติดต่อกันหลายวัน ทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่และจะกระทบต่อส่วยนรวม
สำหรับอีกรายการคิดว่ารุ่นพี่ทำได้ดีกว่า และรายการที่สามก็มีคนที่ทำได้ดีอยู่แล้ว เราไปยืนก็ไม่ได้ทำอะไร เราไม่ควรอยู่ตรงนั้น ควรให้คนที่คล่องกว่าทำ
ขณะที่สัญญาฉบับเก่าคุยกับ คุณเต้ ลูกชาย เจ๊ติ๋ม ขอเปลี่ยนแปลงสัญญา เพราะวันในการถ่ายรายการเยอะไป รายการประเภทเดียวกันถี่ไป ตนจึงขอลดเวลา พร้อมรับฟังและช่วยกันแก้ไข
ทั้งนี้ยอมรับว่าอะไรที่ไม่ใช่ตัวตนของตัวเอง ก็รู้สึกไม่ใช่ ไม่สบายใจ จนต่อมาสัญญามีการเปลี่ยนแปลง เพราะครั้งแรกที่ตนเซ็นไม่ได้ดูให้ดี ไปไหนไม่ได้เลย 7 วัน ซึ่งประเด็นคือ ตนทำงานได้ไม่คุ้มค่า ไม่เป็นตัวเอง เรื่องค่าตัวจึงไม่ใช่ปัญหา ส่วนตัวเพียงแค่ขอลดวันทำรายการลง ไม่ได้ขอเพิ่มค่าตัว
ส่วนประเด็นเรื่องคบคนสีเทา บุหรี่ยังไม่สูบเลย เรื่องตู้ไวน์ ในรายการยังถามว่าอร่อยตรงไหน มีไว้แค่นอนดู ไม่ค่อยดื่ม ที่ผ่านมาทำตามที่ลูกเพจบอก ไม่กินเหล้า ไม่เจ้าชู้ และขอยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งกับยาเสพติดแน่นอน
รวมถึงยืนยันว่าสมปอง ไม่ยุ่งกับธุรกิจสีเทา ส่วนเรื่องคบคนสีเทาไม่ได้ตรวจสอบ ต่อไปอาจต้องตรวจสอบก่อน ส่วนที่ดินมีของครอบครัวที่ต่างจังหวัด ไม่มีเป็นของตัวเอง
สุดท้ายเรื่อง 3 เดือนได้เงินร้อยล้านจริงไหม เรื่องนี้จำพระที่รู้จักมาพูด พูดทีเล่นทีจริง เป็นการตั้งเป้าหมาย ไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนตัวคิดว่าตอนนี้อะไรไม่ใช่ตัวเราก็ไม่อยากฝืน ตั้งแต่เด็กยึดนโยบายต้องทำงานด้วยความสุข หลังจากนี้ก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ เต็มเวลา เต็มความสามารถ ขอยํ้าว่าหลังจากแถลงในไลฟ์สดนี้แล้วจะไม่มีการพูดเรื่องนี้อีก และยังรักผู้ใหญ่ทุกคน ร่วมงานกันได้ ถ้าเป็นงานเข้ากับตันตน งานที่ตนถนัด หากเรื่องนี้ทำให้ใครไม่สบายใจ ขออภัย และ ขอโทษจากใจ
ด้าน”ติ๋ม ทีวีพูล” เปิดเผยว่า ทิดมหา สมปอง เขาเดินมาหาพี่เอง เราไม่จำเป็นต้องไปเอาใครมาอยู่กับเรา เขามา พี่ไม่ได้หวังว่าจะมาช่วยอะไร เขาเป็นคนพูดธรรมะแล้วสนุก พี่ก็คิดว่าเราจะไปเดินสายธรรมะด้วยกัน
“มีคนถามพี่ว่า พี่เสียอะไรให้เขาบ้าง กลัวพี่จะถูกหลอก ตัวพี่เอง พี่หมดไปเกือบล้าน รีโนเวทบ้าน ทำใหม่หมด เขาบอกเขาไม่มีเสื้อผ้า พี่ก็จัดหาแบรนด์ดีให้เขาเลือกใส่ หมดไป แสนกว่าบาท พี่รีโนเวทบ้านอีก 7 แสน”
“พี่อโหสิทุกอย่างแล้ว ให้แล้วให้เลย ไม่ต้องมาเจอกันอีก ไม่ร่วมงานแล้วค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ”