เพชรบุรี-ตำรวจรวบเสี่ยเจ้าของซีฟู้ด “บางตะบูนเบย์”พกปืนเอ็ม16 ไปเคลียร์ปัญหาคาใจ กับ “กำนันยีนส์” คู่อริ จังหวะเดินข้ามถนนถูกรถ จยย.ชนได้รับบาดเจ็บ ปืนกระเด็นตกพื้น
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ที่ตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท. ธนายุตม์ วุฒิจำรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก พล.ต.ต. อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ว่าเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2565 ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ สนธิชัย ชูเชิด รอง สว.(สอบสวน)สภ.บ้านแหลม ว่าได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์เฉลี่ยวชนผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าวัดศรีษคาม หมู่ที่ 4 ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี (กำนันตำบลบ้านแหลม รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.ธานินทร์ สันชวฤทธิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) หน.งานสอบสวน
บริเวณที่เกิดเหตุเกิดพบผู้ได้รับบาดเจ็บนั่งอยู่บริเวณถนนตอดรถยนต์ยี่ห้อ จากัว สีแดง หมายเลขทะเบียน ฎณ-44 กทม. ทราบชื่อภายหลัง นายเสกสรรค์ สุวรรณสายชล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2 ม.2 ต.บางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ตรวจสอบภายในรถพบอาวุธปืน ( M 16 ) จำนวน 1 กระบอก,ซองกระสุน จำนวน 1 อัน,กระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 20 นัดโดยมีนายบัญญัติ ทุ้งทิ้ง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/205 ซอย ศาลธนบุรี ต.บางหว้า อ.เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ รับเป็นเจ้าของ พร้อมแจ้ง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี ตรวจสถานที่เกิดเหตุ จัดเก็บลายนิ้วมือที่อาวุธปืนของกลาง และจัดเก็บลายนิ้วมือและตรวจ DNA ภายในรถยนต์ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันพาอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ท. ธนายุตม์ กล่าวถึงพฤติการณ์แห่งคดี ว่า เมื่อวันที่ (9 ม.ค.65) เวลาประมาณ 13.45 น. นายเสกสรร สุวรรณชายชล ผู้บาดเจ็บและนายบัญญัติ ทุ้งทิ้ง ขับขี่รถยนต์หมายเลขทะเบียน ฎณ-44 กทม.มาจอดข้างถนนบริเวณขข้างทางฝั่งตรงข้ามบ้านกำนันตำบลบ้านแหลม เพื่อปรับความเข้าใจกันในเรื่องส่วนตัว ขณะที่นายเสกสรร จอดรถที่หน้าวัดศรีษะคาม ฝั่งตรงข้ามที่ทำการกำนันตำบลบ้านแหลม และลงมาจากรถเพื่อมาหากำนัน ขณะที่เดินข้ามถนนมีรถยนต์ที่ขับขี่มาตามหลังมาได้เฉี่ยวชนทำให้ได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านแหลม ตรจสอบภายในรถ พบอาวุธปืนเล็กกล (เอ็ม 16) และกระสุนปืน จึงจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตามคำร้องทุกขข์ในคดีอาญาที่ 13/2565 ดังกล่าว
