โรงหนังไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ ตั้งอยู่บริเวณริมถนนไชยณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงหนังที่เปิดให้บริการชาวโคราชมานานเกือบ 30 ปี โดยเริ่มเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงปี 2539 แต่ปัจจุบันนี้โรงหนังไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ได้ปิดกิจการไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีประชาชนเลยเลือกที่จะตัดค่าใช้จ่ายทางด้านบันเทิงทิ้งไปทำให้ประชาชนไม่เข้ามาชมภาพยนต์เหมือนเมื่อก่อน อีกทั้งการเข้ามาของระบบสตรีมมิ่งซึ่งหลายค่ายหนังยักษ์ใหญ่ต่างประเทศหลายค่ายต่างทำภาพยนต์ฉายผ่านระบบสตรีมมิ่งซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าลดลง
นายพรชัย อึ้งธนาไพศาล ผู้บริหารโรงหนังไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ เปิดเผยว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถทำโรงหนังต่อไปได้ก็คือเศรษฐกิจซบเซาซึ่งเริ่มมาตั้งช่วงโควิด-19 เรื่อยมา พอเศรษฐกิจไม่ดีประชาชนก็เริ่มจะตัดค่าใช้จ่ายในด้านบันเทิงออกโดยเฉพาะการไปดูภาพยนต์ ทำให้รายได้ของโรงหนังลดลงสวนทางกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนนับแสนบาท อีกทั้งความนิยมของประชาชนเปลี่ยนไปโดยนิยมไปดูภาพยนต์บนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากกว่าจะมาชมภาพยนต์ในโรงภาพยนต์โดยเฉพาะไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ซึ่งฉายแต่ภาพยนต์เพียงอย่างเดียว
ถึงแม้จะเปิดซุปเปอร์มาเก็ตแล้วรวมไปถึงการลดราคาตัวหนังลงไปกว่าครึ่งก็ยังไม่สามารถเรียกลูกค้ากลับมาได้ ประกอบกับในช่วงการระบาดของโควิด-19 เทรนของการรับชมภาพยนต์ก็เปลี่ยนไปเนื่องจากไม่สามารถไปชมภาพยนต์ตามโรงภาพยนต์ได้ทำให้เกิดระบบสตรีมมิ่งคือการดูหนังออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่นสำหรับดูหนัง นอกจากนี้ค่ายหนังขนาดใหญ่ของต่างประเทศหลายค่ายก็หันมาทำระบบสตรีมมิ่งกันหลายค่ายก็ยิ่งส่งผลทำให้ลูกค้าลดลงจนต้องปิดตัวไปในที่สุด
นางสางโนรี เจียบเกาะ อายุ 55 ปี พนักงานโรงหนัง บอกว่า หลังจากตนทราบข่าวตนก็รู้สึกตกใจและรู้สึกใจหายอย่างมากเนื่องจากตนทำงานที่โรงภาพยนต์แห่งนี้มาตั้งแต่เริ่มรวมระยะเวลาทั้งหมด 27 ปี ซึ่งโรงภาพยนตร์แห่งนี้เปรียบแหมือนบ้านหลังที่ 2 ของตนถ้าดูจากระยะเวลาที่ทำงานแล้วก็เกือบทั้งชีวิตที่ทำงานที่โรงภาพยนต์แห่งนี้ ซึ่งตนคิดว่าโรงภาพยนต์แห่งนี้เป็นของคนโคราชและอยู่คู่เมืองโคราชมานานหลายสิบปีเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่มีเงินจำกัดแต่อยากดูหนังในโรงภาพยนต์ซึ่งราคาตั๋วนั้นถูกกว่าโรงหนังทั่วไปเกือบเท่าตัว แต่ถึงขนาดลดราคาแล้วก็ยังไม่สามรถพยุงต่อไปได้ซึ่งจากนี้ไปตนก็ยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรต่อเหมือนกัน.
โดย…ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ//นครราชสีมา