จากในอดีต คุณป้า ดาวลอย จันทรวงศา เคยยึดอาชีพทำนามาตั้งแต่อายุ15 ปี ยามว่างเลี้ยงวัว เลี้ยงควายอยู่กลางทุ่ง สัมผัสอยู่กับท้องนามายาวนาน สร้างรายได้พอกิน พอใช้ ไม่ได้มีเงินเป็นกอบ เป็นกำ แต่ต้องหาเงินเลี้ยงครอบครัวไปแบบเดือนชนเดือน
จนกระทั่งปี 2547 ภาครัฐได้เข้ามาให้ความรู้เรื่องการทอฝ้ายพื้นเมือง ประกอบกับพอมีทุนความรู้เดิมอยู่บ้าง โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาชุมชนมาสอนเทคนิคการทอ การย้อมสีผ้า รวมทั้ง การออกแบบลวดลาย จนเกิดความชำนาญมีความรู้ สามารถนำมาประกอบอาชีพทอผ้าพื้นเมืองได้ เริ่มแรกๆทอผ้าโฮลโบราณ ลักษณะเป็นผ้ามัดหมี่ของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเขมร นิยมทอกันในแถวอีสาน โดยการเลือกใช้สีเมล็ดมะขาม ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ
ปรากฏว่าคนในย่านตำบลทุ่งหลวง อ. สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เริ่มหันมาสนใจรวมตัวกัน “กลุ่มทอผ้าไหม บ้านตาหยวก” เริ่มหันมาทอผ้าไหมบ้านตาหยวกรวมตัวเป็นกลุ่มเล็กๆขึ้นมา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งเรื่องการเพิ่มช่องทางการตลาด การนำสินค้าไปออกงานโชว์ตามสถานที่ต่างๆ ผลปรากฏว่า มีผลตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี ทั้งคนทั่วไป นักท่องเที่ยว ข้าราชการ ซื้อไปตัดเย็บสวมใส่กัน จึงบอกต่อกันไปแบบปากต่อปาก
ส่วนลวดลายผ้าที่ทอออกมา สอดแทรกงานศิลปะลงไปนั้น จะไปดูลวดลายจากแถวนครวัดหรือตามวัดเก่าๆในแถวอีสาน เพื่อนำงานศิลปะเหล่านี้มาสร้างไอเดียการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร อย่างลวดลายพระเวสสันดรชาดก ได้ไปศึกษาตามวัด จึงนำมาศึกษาดูแบบทำการทอลวดลายลงไปต้องใช้เวลานานมากกว่าที่จะทอเสร็จหนึ่งผืนร่วมเดือนกว่า แต่เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว ลวดลายสวยงามมาก เหมาะสมกับราคา ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อไปใส่กรอบโชว์ไว้ตกแต่งตามโรงแรมต่างๆ
นอกจากนี้ จะมีผ้าลายขอพระราชทาน ผ้าไทยลายขิด ผ้าโฮลไหมมัดหมี่ ลายผ้าสาเกต ตอนนี้มีออเดอร์สั่งเข้ามาเยอะ ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าแถวร้อยเอ็ด จนบางช่วงผลิตไม่ทัน นอกจากนี้ยังกลุ่มผู้หลัก ผู้ใหญ่ส่วนกลางสั่งสินค้ามาต่อเนื่อง จนสามารถสร้างรายได้ดี สามารถส่งลูกเรียนจบสาขาทันตแพทย์ ประเทศออสเตรเลีย
