เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชี วิตชนบท เดินหน้า “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ ออาหารกลางวันนักเรียน” สู่ปีที่ 36 บรรลุเป้าหมาย “หนุนโภชนาการที่ดี-สร้างแหล่ งอาหารยั่งยืน” แก่เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ปักหมุดขยายโครงการในโรงเรียน 1,000 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2568
นายจอมกิตติ ศิริกุล ผู้บริหารสูงสุด สายงานด้านบริหารกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และผู้ช่วยบริหารสำนั กประธานคณะกรรมการบริหาร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า เครือซีพี ซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชี วิตชนบท ร่วมกันดำเนิน “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ ออาหารกลางวันนักเรียน” มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิ ตของเยาวชนในชนบทห่างไกลทั่ วประเทศ ช่วยเสริมสร้างโภชนาการที่ดี และการเติบโตสมวัย ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา โดยมีเป้าหมายขยายโรงเรียนเพิ่ มขึ้นปีละ 25 แห่ง
ปัจจุบัน มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ รวม 959 โรงเรียนทั่วประเทศ มีนักเรียน 213,794 คน รวมทั้งครูและบุคลากรทางการศึ กษา กว่า 16,086 คน และชุมชน 2,374 แห่ง ได้เรียนรู้ทักษะการเลี้ยงไก่ ไข่ ตลอดจนสร้างสมหลักความคิด สุขภาพ การเงิน และการจัดการอาชีพในอนาคต ขณะเดียวกันยังประยุกต์กิ จกรรมสู่การเรียนการสอน ส่งผลให้นักเรียนได้เรียนรู้ การบริหารจัดการธุรกิจเกษตร ขณะเดียวกันซีพีเอฟยังได้จัดจ้ างผู้พิการช่วยงานในโรงเรียนที่ ร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ จนถึงปัจจุบันมีการทำสัญญาจ้ างงานคนพิการไปแล้วรวม 482 คน
“โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ร่ วมแก้ปัญหาทุพโภชนาการแก่เด็ กและเยาวชน พบว่าภาวะทุพโภชนาการของนักเรี ยนที่ร่วมโครงการฯ จากร้อยละ 25.8 ในปี 2564 ลดลงเหลือร้อยละ 22.8 ในปี 2565 และเป็นการสร้างห้องเรียนอาชี พจากการเรียนรู้การบริหารจั ดการธุรกิจเกษตร นำไปสู่การสร้างคลังเสบี ยงอาหารในโรงเรียนและชุมชนใกล้ เคียง ผลผลิตไข่ไก่ที่จำหน่ายให้แก่ชุ มชน ทำให้คนในชุมชนได้บริโภคไข่ สดใหม่ในราคาย่อมเยาตามหลั กเศรษฐกิจพอเพียง เกิดเป็นรายได้หมุนเวียน ต่อยอดโครงการต่อเนื่อง เกิดเป็นกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน” นายจอมกิตติ กล่าว
ทางด้าน นายสมคิด วรรณลุกขี ผู้อำนวยการใหญ่ธุรกิ จไก่ไข่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟมุ่งสนับสนุนให้โรงเรี ยนสามารถสร้าง แหล่งอาหารโปรตีนคุณภาพดีด้ วยฝีมือของนักเรียน เพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบการบริ หารจัดการผลผลิตนำไปสู่ความยั่ งยืนของโครงการฯ โดยบริษัทเป็นผู้ถ่ ายทอดเทคโนโลยีสู่เยาวชน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการฟาร์ มขนาดเล็กได้ด้วยตนเอง ด้วยการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี นำระบบการเลี้ยงและองค์ความรู้ การจัดการมาตรฐาน พร้อมทั้งส่งนักสัตวบาลเข้าสนั บสนุนวิชาการตั้งแต่เริ่มต้นเลี้ ยงจนถึงปลดแม่ไก่ไข่ รวมถึงแนะนำการจำหน่ายและตลาด เพื่อให้โครงการฯดำเนินการได้ โดยมีผลกำไรเพียงพอสำหรับการบริ หารให้มีเงินทุนส่งให้รุ่นต่ อไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรงเรียนพึ่งพาตนเองได้อย่ างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมด้านการสื่ อสารและการจัดการข้อมูล ด้วยการใช้แอปพลิเคชัน LINE เพื่อความสะดวกรวดเร็ วในการสื่อสาร มีการรวบรวมข้อมูลทางออนไลน์ด้ วยกูเกิลฟอร์ม (Google Form) ช่วยให้รับทราบข้อมูลที่รวดเร็ว ทำให้สามารถการวางแผนการผลิตได้ อย่างเหมาะสม
“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ ออาหารกลางวันนักเรียน มีเยาวชนเป็นส่วนสำคัญในการสร้ างความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียน และเด็กๆยังได้เรียนรู้นอกตำรา เกิดประสบการณ์จากการลงมือปฏิบั ติจริง ยังเป็นการสร้างห้องเรียนอาชีพ ให้น้องๆได้เรียนรู้การบริหารจั ดการธุรกิจเกษตร ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต จนถึงการจำหน่าย ที่สามารถนำไปต่อยอดเป็นวิชาชี พในอนาคต” นายสมคิด กล่าว
สำหรับโรงเรียนที่สนใจเข้าร่ วมโครงการฯ สามารถติดต่อขอข้อมูลได้ที่ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิ ตชนบท http://www.cp- foundationforrural.org โทร. 063-871-6545 หรือ 092-870-0783