น่าน – ซีพี ผนึกกำลังทุกภาคส่วน หนุนชาวบ้านสบขุ่น ทำแนวป้องกันไฟป่า พร้อมจัดเวรยามเฝ้าระวังไฟป่าเข้มข้น 3 เดือน ป้องป่าชุมชนและไร่กาแฟ กว่า 2,000 ไร่
นายอรรถวิทย์ ยุทธยศ ผู้จัดการทั่วไป ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ อุทยานแห่งชาตินันทบุรี ,โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านสบขุ่น ,สถานีป้องกันไฟป่านันทบุรี,หน่วยจัดการต้นน้ำ และชุมชนบ้านสบขุ่น ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ร่วมกันทำกิจกรรมทำแนวป้องกันไฟป่า รอบแนวป่าชุมชนและหมู่บ้านสบขุ่น รวมระยะทาง 6 กม. ความกว้างอย่างน้อย 8 เมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ โดย ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) สนับสนุนแนวป้องกันไฟป่า ระยะทาง 5 กิโลเมตร และโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านสบขุ่น สนับสนุนแนวป้องกันไฟป่าระยะทาง 1 กิโลเมตร อุทยานนันทบุรี , หน่วยป้องกันไฟป่า ,หน่วยจัดการต้นน้ำ สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เครื่องเป่าลม ซึ่งเป็นความร่วมแรงร่วมใจในการดูแลรักษาผืนป่าชุมชนของหมู่บ้านสบขุ่น โดยหลังจากทำแนวป้องกันไฟป่าแล้ว ทางชุมชนและภาคีเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ยังได้ร่วมกันวางแผนจัดเวรยามเข้มข้น เพื่อเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องอีก 3 เดือน เพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าชุมชนหมู่บ้านสบขุ่น
นายสงคราม รัตนศรีลา ประธานวิสาหกิจชุมชนสร้างป่าสร้างรายได้ บ้านสบขุ่น จ.น่าน กล่าวว่า วิสาหกิจชุมชนฯ บ้านสบขุ่น มีสมาชิกเกษตรกร 139 ครัวเรือน พื้นที่ปลูกกาแฟอะราบิก้า 702 ไร่ ให้ผลผลิตกาแฟรวมกว่า 20 ตัน ต่อปี และได้รับประกาศนียบัตรเหรียญทองแดง ประเภทคุณภาพกาแฟระดับดีมาก ในโครงการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2565 ที่จัดขึ้นโดยกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ตราสินค้าคุณภาพมาตรฐาน น่านแบรนด์ โดยสำนักงานพานิชย์จังหวัดน่าน กิจกรรมการทำแนวกันไฟป่ารอบแนวป่าชุมชนหมู่บ้านสบขุ่น จึงเป็นการช่วยป้องกันและรักษาไร่กาแฟ ซึ่งเป็นทั้งอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนบ้านสบขุ่น หากเกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่ป่าชุมชน ก็จะส่งผลกระทบต่อไร่กาแฟ ทั้งเรื่องปริมาณผลผลิตและคุณภาพกาแฟ ดังนั้นกิจกรรมการทำแนวกันไฟป่า จึงเป็นเรื่องสำคัญของชุมชนบ้านสบขุ่นที่ทำอย่างต่อเนื่องทุกปี
ระรินธร เพ็ชรเจริญ