รรท.เลขาธิการ ป.ป.ส. เผย “สว.อุปกิต” รับทราบข้อหา “สมคมค้ายาเสพติด” แล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาอายัดทรัพย์ตามขั้นตอน ยันไม่ดำเนินการล่าช้า
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยความคืบหน้ากรณี นายอุปกิต ปาจรียางกูร สว. ที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและอาชญากรข้ามชาติ ว่า หลังจากพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้เสนอสำนวนไปยังพนักงานอัยการ โดยได้มีการแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินแก่ นายอุปกิต แต่ทางอัยการมีความเห็นว่าควรจะแจ้งข้อหาสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบกันค้ายาเสพติด ทำให้เป็นอำนาจของพนักงานอัยการ ซึ่งเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา นายอุปกิต ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ดังนั้น เมื่อมีการแจ้งข้อหาสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบกันค้ายาเสพติด ทำให้จะต้องมีการตรวจสอบทรัพย์สิน ซึ่งในตอนนี้ ปปส.กทม. และพนักงานสอบสวน บช.ปส. อยู่ระหว่างการพิจารณาอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบว่าจะมีทรัพย์สินรายการใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีนี้บ้าง ทั้งนี้ ได้สั่งการ ปปส.กทม. ให้ดำเนินการประสานกับพนักงานสอบสวน บช.ปส. ให้เเล้วเสร็จโดยเร็ว จากนั้นจึงจะมีการรวบรวมข้อมูลรายการทรัพย์สินเพื่อยื่นเสนอต่อบอร์ดคณะอนุกรรมการประจำคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน โดยมีปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน เพื่อพิจารณาว่าทรัพย์ใดควรยึด หรือทรัพย์ใดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดก็ต้องคืนกลับไป
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยว่า ส่วนการดำเนินคดีล่าช้าอาจมีการจำหน่าย ถ่ายเท โอนย้าย ซุกซ่อนทรัพย์สินไปไว้ที่อื่นนั้น แม้บุคคลจะมีการถ่ายเททรัพย์สินไปที่ไหนอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถขยายผลสืบทรัพย์ติดตามกลับมาได้ ยกตัวอย่าง หากบุคคลมีการขายบ้านพักที่อยู่อาศัย ก็จะมีพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารของการซื้อขาย เพื่อเป็นพยานหลักฐานในคดีต่อการติดตามทรัพย์ได้ ทั้งนี้ ภายในวันที่ 12 พ.ย.เป็นต้นไป คาดว่าจะมีความคืบหน้าในเรื่องรายการทรัพย์สินที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป จำกัด (ALLUREGROUP CO.,LTD.) จากพนักงานสอบสวน บช.ปส. และ ปปส.กทม. ขอให้ความมั่นใจว่า ป.ป.ส. ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าแต่อย่างใด