พิจิตร-‘อิ๊งค์-เสี่ยนิด’ ร่วมปราศรัยหาเสียงพิจิตรครั้งแรก! ‘แพทองธาร’ อ้อนถึงจะเดินไม่ไหวแต่ต้องมา ‘เศรษฐา’ บอกถึงเวลาทำประโยชน์บ้านเมือง ขอแลนด์สไลด์ไม่ปันใจให้คนอื่น ชี้ต้องเป็นรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย…
พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่เวทีปราศรัยวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2566 นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีต ส.ส.พิจิตร และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร ได้แก่ นายภูดิท อินสุวรรณ์ นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร และนายวิชัย ด่านรุ่งโรจน์ รวมถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเวทีด้วย ท่ามกลางประชาชนรอรับฟังคำปราศรัยจนเต็มพื้นที่
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ปราศรัยว่า วันนี้เราต้อง ชูธง ปักชัย เพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน 310 เสียง ถ้าเราไม่ได้ 310 พี่น้องชาวพิจิตร จะต้องอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ไปอีก 4 ปี ตอนแรกเราต้องการ 250 เสียง เพื่อชนะ ส.ว.ก่อน แต่จากการลงพื้นที่ประชาชนให้มาเกิน 250 เสียงแล้ว เมื่อมีคนออกมาบอกว่าพรรค พท. ได้ส.ส. 270 เสียงก็จะดันพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ถ้าเราไม่ได้คะแนนจากพี่น้องชาวพิจิตร เสียง 310 อาจเป็นไปไม่ได้เลยต้องมาขอคำมั่นสัญญาจากพี่น้องชาวพิจิตรจะเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ มีคนออกมาตั้งข้อสังเกตหลังเลือกตั้งพรรค พท. จะจับมือกับพรรคนั้นพรรคนี้ ยืนยันหลังการเลือกตั้งพรรค พท. จะไม่จับมือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะพรรค พท. จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ถ้าเราได้ 310 เสียง จะได้นายกฯ จากประชาชนและเราจะได้ผลักดันนโยบายที่ประกาศไว้
น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า ดีใจได้มาเจอคนพิจิตรด้วยตัวเอง คนที่พรรคพูดกันว่าตนจะเดินทางได้ถึงเมื่อไร แต่พอบอกมาพิจิตรจึงต้องมา ถ้าพิจิตรแลนด์สไลด์นายกฯ มาจากเพื่อไทยแน่นอน พิจิตรมีปัญหามากมาย การเกษตร เราจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรดียกแผง ข่าวราคาดี ปุ๋ยต้องถูกลง เราจะมีนโยบายใช้เทคโนโลยีมาช่วยประชาชน เพื่อไทยจะทำให้ประชาชนมีที่ดินทำกินอย่างเท่าเทียมกัน ตนขอฝากผู้สมัครทั้ง 3 เขต ของจ.พิจิตร ให้แลนด์สไลด์เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค และพิเศษที่สุดที่พิจิตร ตนขอแนะนำนายเศรษฐา ที่เป็นประธานที่ปรึกษาของพรรค และอยู่ในทีมเศรษฐกิจ มั่นใจได้เลยว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแน่นอน
นายเศรษฐา ปราศรัยว่า ขอบคุณแพทองธาร ที่ให้โอกาสตนมาพบประชาชน รู้สึกเป็นเกียรติ อบอุ่น และซึ้งใจเป็นอย่างมาก ตนมีหัวใจประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เอาเผด็จการ ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ตนในฐานะนักธุรกิจที่สะสมประสบการณ์มา 30 ปี ต้องก้าวออกจากวงการธุรกิจเพื่อทำประโยชน์ให้บ้านเมือง 8 ปี ที่ผ่านมาเป็นระยะเวลาที่ยาวมาก เราสูญเสียโอกาสไปมาก รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม ปัญหายาเสพติดมาก มองไม่เห็นอนาคตลูกหลาน คนแก่คนเฒ่า มีเงินเก็บไม่พอเลี้ยงดูตัวเองอย่างมีศักศรีได้ในสังคม ประเทศไทยเคยเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย วันนี้เราถดถอยไปขนาดไหน เราไม่มีเวทียืนบนเวทีโลก ผู้นำไม่เคยไปเปิดตลาดสินค้าใหม่ๆ
“8 ปี ที่ผ่านมาเพียงพอหรือยัง ผมว่าพอแล้วอีกไม่กี่เดือนเราจะมีวันสำคัญยิ่งคือวันเลือกตั้ง ถ้าเราไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ใน 8 ปี ถึงเวลาที่จะเข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 2 เบอร์ ไม่มีการปันใจให้คนอื่น เพราะถ้ามีพรรคอื่นมาร่วมรัฐบาลจะไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่เราคิดมา และจะไม่สามารถทำได้กับสิ่งที่เราสัญญาไว้ ตนและเพื่อนๆ ไม่อยากกลับมาอีกแล้วบอกว่าทำไมเราทำไม่ได้ แต่อยากกลับมาบอกนโยบายที่เราจะทำให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น ที่ผ่านมาทั้งไทยรักไทย พลังประชาชน ใช้นโยบายนำ วันนี้เพื่อไทย ใช้นโยบายคิดใหญ่ทำเป็น เคยทำ และจะทำให้ประชาชนไปสู่จุดมุ่งหมายแลนด์สไลด์ ตนอยากเป็นประเทศชาติมีอนาคตที่สดใส จึงขอแลนด์สไลด์” นายเศรษฐา ระบุ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันที่ 17 มี.ค.นี้ ขอให้ประชาชนรอฟัง เพราะพรรค พท. จะเปิดนโยบายชุดใหญ่ๆ ส่วนแคนดิเดตนายกฯ จะเปิดวันไหน ต้องรอหัวหน้าพรรคเป็นผู้ประกาศ แต่ที่สื่อมวลชนพูดไว้แน่ๆ บนเวทีนี้มี 2 คน และถ้าเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ไม่ต้องถามต่อจะไปยกเก้าอี้ให้พล.อ.ประวิตร หรือไม่ ถ้าเพื่อไทยแลนด์สไลด์จะจัดตั้งรัฐบาล เอาเก้าอี้นายกฯ มาบริหารประเทศให้ประชาชน และวันนี้สองลุงไม่ได้แตกกัน ถ้าเพื่อไทยได้ไม่ถึงครึ่งจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้.