จากกรณี นายภาณุเมศวร์ วาสโสหา อายุ 27 ปี วิศวกรโยธาสังกัดกองช่าง เทศบาลตำบลนากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ก่อเหตุจุดเตารมควันฆ่าตัวตายภายในรถปิกอัพ โตโยต้า วีโก้ สีขาว ริมบึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบจดหมายลาตายที่ นายภาณุเมศวร์ เขียนระบายถึงพ่อแม่ ว่า ถูกกดดันจากที่ทำงาน ที่เต็มไปด้วยการทุจริตในโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคของเทศบาล ซึ่งไม่สามารถรับกับระบบฉ้อโกงนี้ได้ จึงขอแก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย ตามที่ได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายทวีศักดิ์ จันทะศรี นายกเทศบาลตำบลนากลาง บอกว่า ปัญหาการทุจริตในแวดวงราชการของไทยมีมานานแล้ว ตนเข้ามาก็หวังว่าจะแก้ไขปัญหาตรงนี้ สำหรับตัวผู้ตายโดยปกติ เคยพบกันประมาณ 3 ครั้ง เนื่องจากผู้ตายเป็นเจ้าหน้าที่บรรจุใหม่ประมาณ 6 เดือน ยังไม่มีความคุ้นเคย เท่าที่ทราบจากเพื่อนร่วมงานก็ทราบว่า ผู้ตายมีนิสัยเงียบ ไม่ค่อยพูดจา เมื่อได้อ่านจดหมายที่ผู้ชายเขียนไว้
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกเสียดายในความรู้ความสามารถ กว่าจะศึกษาเล่าเรียนมาจนถึงขณะนี้ มองว่าผู้ตายเป็นคนดี เปรียบไปก็เหมือนกับ สืบ นาคะเสถียร ที่ใช้ชีวิตของตัวเองต่อสู้กับปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบทางการเมืองหรือความรับผิดชอบตามหน้าที่กฎหมาย นอกจากจะตั้งกรรมการสอบเรื่องการทุจริตตามขั้นตอน ก็จะใช้เงื่อนไขนี้ ให้เป็นการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วย
“หากได้รู้จักสนิทสนมกันก่อนหน้านี้ ก็คงได้ต่อสู้ร่วมกับตนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านี้ เพราะว่าตนเองเป็นนักการเมืองมืออาชีพ ก็หวังจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้”
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า หากไปร่วมงานในการฌาปนกิจศพครั้งนี้ และได้เจอกับญาติพี่น้องของผู้ตาย จะพูดคุยอะไรกัน นายทวีศักดิ์ จันทะศรี นายกเทศบาลตำบลนากลาง กล่าวว่า ก็คงต้องดูก่อนจะคุยอะไรกันได้บ้าง
จากการพูดคุยกันประมาณ 30 นาที นายทวีศักดิ์ จันทศรี ก็ขอตัวไปพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จังหวัด ที่เดินทางมาพบ จากการตรวจสอบพบว่า มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดหนองบัวลำภู เดินทางมาพบกับนายทวีศักดิ์
ภายหลัง นายเปรมจิต แจ่มใสดี ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดหนองบัวลำภู บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เดินทางมาสอบถามเพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โครงการต่างๆ ที่วิศวกรหนุ่มรับผิดชอบ และพูดถึงในจดหมาย ในเบื้องต้นว่ามีความถูกต้องครบถ้วนแค่ไหน โดยก็จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับประเด็นอื่นในการที่จะตรวจสอบหรือติดตามยังไม่ได้พูดถึง
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปดูโครงการทำถนนที่ผู้ตายพูดถึงในจดหมายที่ผู้ตายเป็นผู้ควบคุมงาน คือโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ซอยเพชรสุวรรณ 6 หมู่ที่ 9 ตำบลนากลาง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ผู้รับจ้าง คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วีรวุฒิคอนกรีต วงเงินงบประมาณตั้งไว้ 650,000 บาท ราคากลางค่าก่อสร้างเฉลี่ย 647,112 บาท วงเงินค่าก่อสร้างตามที่ได้ลงนามในสัญญาจ้าง 413,000 บาท ผู้ควบคุมงาน นายภาณุเมศวร์ วาดโสหา ตำแหน่งวิศวกรโยธาปฏิบัติการ
ซึ่งในจดหมายผู้ตายระบุว่า ถนนเส้นนี้ได้เทคอนกรีตเย็น ภายหลังมีเรื่องร้องเรียนว่ามีการชำรุดแล้วใช้ซีเมนต์ฉาบปิดร่องรอยไว้ จากการตรวจสอบพบว่ามีการฉาบคอนกรีตบนผิวถนนจริง ประมาณ 5 จุด แต่มีจุดใหญ่ๆ ที่ กว้างอยู่ 2 ที่
ต่อมาช่วงเย็น นายไพรัตน์ ปัจจะวงษ์ ผอ.กลุ่มงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 1 ปปท.เขต 4 พร้อมคณะลงตรวจพื้นที่ ได้รับแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ทางสำนักงานได้รับหนังสือร้องเรียนเรื่องการก่อสร้างทางระบายน้ำเสริมผิวจราจรถนน โครงการหนึ่งส่อว่าจะมีการทุจริต ต่อมาเมื่อวานเกิดกระแสข่าวเรื่องการพบจดหมายเปิดโปงการทุจจริตของเทศบาลตำบลนากลาง จึงผนวก 2 เรื่องเข้า แล้วออกมาตรวจสอบในวันนี้
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ถนนซอยเพชรสุวรรณที่ปรากฏในจดหมายของผู้ตายทาง ปปท.เขต 4 ได้ไปตรวจสอบแล้วหรือยัง ทางผู้อำนวยการ ปปท.เขต 4 กล่าวว่า ได้ทำการตรวจสอบทางเอกสารแล้ว ปรากฏว่าโครงการที่ผู้ตายรับผิดชอบมี 3 โครงการ แต่ยังไม่ได้มีการเซ็นรับงาน มีเพียงแต่ทางฝ่ายของผู้รับจ้างส่งมอบงานมา อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเบื้องต้นก็พบว่ามีร่องรอยของการจับผิวถนนจริงตามที่ผู้ตายเขียนไว้
สำหรับโครงการก่อสร้างเทศบาลตำบลนากลาง โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กซอยเพชร สุวรรณ 6 หมู่ที่ 9 ต.นากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ผู้รับจ้างคือห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง วงเงินงบประมาณ 650,000 บาท ราคากลางค่าก่อสร้างเฉลี่ย 647,112 บาท วงเงินค่าก่อสร้าง ตามที่ได้ลงนามในสัญญาจ้าง 413,000 บาท