ศก.เดือนก.ค.ยังรุ่ง รับอานิสงส์ท่องเที่ยวพุ่งกว่า 6,100% ส่งออกโตติด 17 เดือน

สศค.เผยเศรษฐกิจไทยเดือนก.ค.ยังรุ่ง รับอานิสงส์นักท่องเที่ยวพุ่งกว่า 6,100% รายได้เกษตรดี-ส่งออกโตติด 17 เดือน ขณะที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น

นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนก.ค. 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย 1.12 ล้านคน ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 6,126.3% โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย อินเดีย เวียดนาม และเกาหลี ส่วนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 16.7 ล้านคน ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 1,818.6%

รวมถึงรายได้เกษตรกรที่ยังขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 10.7% ช่วยสนับสนุนการบริโภคภาคเอกชน เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน ปีก่อนที่ 15.0%

สำหรับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนก.ค. 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 1.8% และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 42.4 จากระดับ 41.6 ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยเป็นผลมาจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น

ตลอดจนการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกมากขึ้น แต่ยังมีความกังวลในเรื่องการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ ที่ทำให้ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า

ทั้งนี้ ในส่วนของมูลค่าการส่งออกสินค้ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนก.ค. 2565 อยู่ที่ 23,629.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกัน ปีก่อนที่ 4.3% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัว 4.1%

โดยสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ 1. สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 14.6% โดยเฉพาะน้ำตาลทราย ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง ข้าว และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 2. สินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 0.1% อาทิ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ โดยการส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 33.3% ตะวันออกกลาง 27.4% อาเซียน 9 22.6% และสหรัฐ 4.7%

นายวุฒิพงศ์ กล่าวอีกว่า ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนก.ค. 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกัน ปีก่อนที่ 1.1% จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ เช่น ข้าวเปลือก ยางพารา และมันสำปะหลัง เป็นต้น อย่างไรก็ดี ผลผลิตในหมวดไม้ผลและหมวดปศุสัตว์ชะลอตัว

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 89.0 จากระดับ 86.3 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากภาคการผลิตที่ขยายตัวจากความต้องการทั้งสินค้าคงทนและสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของตลาดในประเทศและตลาดส่งออกที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลเรื่องต้นทุนการผลิตที่ยังอยู่ในระดับสูงจากราคาวัตถุดิบและพลังงาน รวมถึงค่าขนส่งที่ยังเพิ่มขึ้น และยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะส่งผล กระทบ ต่อภาคการผลิต การส่งออก และทิศทางเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง