สวรรคโลกจมบาดาล เตือน “11 จังหวัด” รับมือ “เจ้าพระยา”ปล่องน้ำเพิ่ม ระวัง-เอ่อล้น

สถานการณ์น้ำท่วมยังวิกฤติ หลังน้ำเหนือไหลบ่าตามลำน้ำต่างๆผ่านจุดวัดน้ำเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ มีปริมาณเพิ่มขึ้น ทำให้กรมชลประทานปรับการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำได้รับผลกระทบ

นายสุชาติ ทีคะสุข ผวจ.สุโขทัย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยบริเวณสะพานสิริปัญญารัต หมู่ 5 ต.วังใหญ่ และพื้นที่หมู่ 4 ต.วังทอง อ.ศรีสำโรง หลังได้รับผลกระทบน้ำยมเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ผู้ว่าฯกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนดูแลประชาชนอย่างเร่งด่วน ส่วนพื้นที่หมู่ 1 ต.เมืองบางยม อ.สวรรคโลก ที่ได้รับความเดือดร้อนถูกน้ำไหลเซาะคอสะพานชำรุด ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันอุดจุดที่ถูกน้ำซัดพังทลายได้แล้ว อย่างไรก็ตามแม่น้ำยมยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนบริเวณที่ลุ่มต่ำขยายวงกว้างมากขึ้น

ที่ ต.ป่ากุมเกาะ อ.สวรรคโลก น้ำไหลทะลักเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเอ่อท่วมวัดท่าเกย และโรงเรียนบ้านป่ากุมเกาะ ครูต้องประกาศปิดการเรียนการสอนไม่มีกำหนด น้ำสูงกว่า 2 เมตร ส่งผลกระทบต่อพระสงฆ์ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าอาวาสวัดพลายชุมพล เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ในฐานะประธานมูลนิธิพลายชุมพล และเป็นผู้ประสานงานสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคมประจำ จ.สุโขทัย ได้นำอาหารน้ำดื่มใส่เรือพายไปช่วยชาวบ้านและพระวัดท่าเกยที่ตั้งอยู่เหนือประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ทำให้ได้รับผลกระทบเต็มๆ

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม จ.พิษณุโลก นางสีไพร โกธรรม ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พิษณุโลก ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.พิษณุโลก สั่งเจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ 6 ลำ และเสื้อชูชีพเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนในที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำยม ต.ชุมแสงสงคราม ต.บางระกำ ต.ท่านางงาม และชุมชนหลังวัดสุนทรประดิษฐ์ อ.บางระกำ หลังมวลน้ำจาก จ.สุโขทัย ไหลมาตามแม่น้ำยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขณะที่กรมชลประทานออกหนังสือฉบับที่ 5 ถึงผู้ว่าราชการ 11 จังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาแจ้งเตือนเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มการระบายน้ำ ประกอบด้วย อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ ปัจจุบันสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,169 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.51 เมตร/ รทก. ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 10.96 เมตร/รทก. น้ำห่างจากตลิ่ง 5.38 เมตร เขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำที่ 935 ลบ.ม./วินาที ทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมืองสิงห์บุรี มีน้ำไหลผ่าน 864 ลบ.ม./วินาที

จากการคาดการณ์สถานการณ์น้ำในอีก 1-7 วันข้างหน้าของกรมชลประทาน โดยในวันที่ 30 ส.ค.ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขามีปริมาณประมาณ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำ 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และรับน้ำเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอัตรา 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนในอัตรา 900-1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

Related posts