กทม.-ตำรวจ สน.สำเหร่ ล่า หนุ่มเมาหนัก ปีนเกลียว ในวงเหล้าจนโดนรุมด่า ก่อนคว้าอาวุธปืนสงครามกระหน่ำยิงดับ 1 ราย ในงานวันเกิด เมียเจ้าของบ้านถูกลูกหลง
พ.ต.ท.อมร นิธิศยังมี สารวัตร(สอบสวน) สน.สำเหร่ ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 00.00 น. วันที่ 30 ม.ค.2565 เกิดเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ถนนกรุงธนบุรี ซอย 6 แยก 4 แขวงสำเหร่ เขตคลองสาน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ฉัฐกิตติ์ ผดุงจันทน์ธนัย ผกก.สน.สำเหร่, พ.ต.ท.ชโลธร วัฒนะโชติ รอง ผกก.(สส.) สน.สำเหร่, พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส รอง ผกก.(ป.) สน.สำเหร่, เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน, แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นตึกแถวสูง 2 ชั้น หน้าบ้านหลังดังกล่าวมีขวดสุรา ขวดโซดา ชิ้นเค้กงานวันเกิด เก้าอี้พลาสติก และกับแกล้มวางอยู่ จากการตรวจสอบภายในบ้านชั้นล่าง พบศพ นายสมบูรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี สภาพสวมเสื้อยืดเเขนสั้นสีดำลายขาว ยี่ห้อ PLAYBOY นุ่งกางเกงยีนส์ขาสามส่วน มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 5.56 เข้าที่หางตาซ้าย กระสุนทะลุออกไปถูกกำแพงบ้านจนเป็นรูโหว่ นอนหงายจมกองเลือด
นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยกระสุนปืนยิงไปถูกทีวีจอแบน ซึ่งวางอยู่ด้านในบ้าน จำนวน 2 นัด จนจอแตกทะลุ และยังมีผู้บาดเจ็บถูกลูกหลงอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นางสุปราณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี โดนกระสุนเเฉลบเข้าที่ท้อง ต้นแขนขวา และใบหน้า ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเลิดสินไปก่อนหน้านี้
ส่วนบริเวณนอกตัวบ้านด้านหน้าห่างไปทางด้านขวา 5 เมตร พบหลักฐานเป็นลูกกระสุนปืน ขนาด 5.56 ซึ่งเป็นกระสุนที่ใช้กับปืนเล็กยาวแบบ M16 และ ปืนเล็กยาวแบบ HK33 สภาพชำรุดติดขัด ถูกกระชากลำเลื่อนคัดทิ้งจากตัวอาวุธตกอยู่บนพื้น 1 นัด และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันที่ถูกยิงไปแล้วอีกทั้งหมด 4 ปลอก กระจัดกระจายเกลื่อนพื้นโดยที่จานท้ายของกระสุนทุกนัด มีอักษรย่อ RTA และตัวเลข 17 เป็นสัญลักษณ์เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายชัชวาล (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของบ้านซึ่งเป็นเจ้าของงานวันเกิดอายุครบ 47 ปีวันนี้ ให้การว่า ผู้ตายเป็นคนงานบ่อตกกุ้ง และเป็นเพื่อนตนที่คบหากันมานาน ส่วนคนเจ็บเป็นภรรยาของตน โดยก่อนเกิดเหตุตนพร้อมพรรคพวกทางเพื่อนรุ่นน้องและเพื่อนรุ่นพี่ ราว 7-8 คน นั่งกินดื่มสังสรรค์อยู่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นก็พากันเป่าเค้กวันเกิด
นายชัชวาล กล่าวต่อว่า จนกระทั่งมีเพื่อนรุ่นน้องในวง 1 คน ชื่อ นายอนุสรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมามากแล้ว และยังทำตัวโวยวายพูดจาเสียงดังระหว่างที่ตนเป่าเค้ก หนำซ้ำ นายอนุสรณ์ ยังยกแก้วเหล้าชนกับคนอื่นจนหกเลอะเทอะ ทำให้ทุกคนในวงเริ่มไม่พอใจ มีการรุมว่ากล่าวตักเตือน นายสมบูรณ์ที่ถือว่าเป็นรุ่นใหญ่กว่าก็ด่าสั่งสอนไป แต่มีรุ่นพี่อีกคนชื่อ นายโจ้ อายุประมาณ 50 ปี ใช้ฝ่ามือตบที่ศีรษะ เป็นการสั่งสอนไป 1 ครั้ง ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้าย และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ
“เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อทุกคนในวงกลับกันจนเกือบหมดแล้ว ที่สำคัญนายโจ้ที่เป็นคนตบศีรษะนายอนุสรณ์ก็กลับไปแล้ว เหลือแค่ผมและผู้ตาย กับเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่เป็นแม่ครัวทำกับแกล้ม ยังนั่งดื่มอยู่หน้าบ้าน จู่ ๆ นายอนุสรณ์ ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น ย้อนกลับมาอีกครั้ง ก่อนชักอาวุธปืนยาวไม่ทราบชนิด เดินมาที่หน้าบ้านผม โดยนายอนุสรณ์บอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดและผมเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายจะขอไว้ชีวิต” นายชัชวาล กล่าว
นายชัชวาล กล่าวอีกว่า จากนั้น นายอนุสรณ์ ได้เรียกชื่อเล่นผู้ตายว่า “นาว” ก่อนเปิดฉากกระหน่ำยิงใส่หลายนัด จนกระสุนถูกเบ้าตาของผู้ตาย เซเข้าไปเสียชีวิตในบ้าน ส่วนภรรยาตนโชคร้ายที่ได้ยินเสียงเอะอะจึงเดินลงบันไดมาจากห้องนอนชั้น 2 ทำให้พลอยถูกกระสุนลูกหลงบาดเจ็บไปด้วย จากนั้นนายอนุสรณ์ก็เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางท้ายซอย พอตั้งสติได้จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ หลังได้รับรายงานเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.สำเหร่ ได้เร่งประสาน กก.สส.บก.น.8 ติดตามไปที่บ้านพักของ นายอนุสรณ์ ย่านถนนประชาอุทิศ แต่คลาดกันเพียงเล็กน้อย จึงแบ่งกำลังไปดักซุ่มที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟเนื้อและหมูตุ๋นชื่อดัง ชื่อร้าน “เต๋าหม้อไฟ อร่อยแตกซิก” ย่านถนนพระราม 3 ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาสาขาสำนักงานใหญ่ ซึ่งนายอนุสรณ์ เป็นลูกจ้างอยู่แต่ก็ไม่พบ จึงพยายามกดดันให้ญาติช่วยเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัวแต่ยังไร้วี่แวว โดยหลังจากนี้จะจัดชุดไล่ล่านำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มีรายงานว่า ในเฟซบุ๊กของ นายอนุสรณ์ ได้มีความเคลื่อนไหว โดยการโพสต์ข้อความ ก่อนลงมือก่อเหตุในทำนองโกรธแค้นที่ถูกรุมด่า และถูกตบศีรษะ นอกจากนี้ ยังพบว่า นายอนุสรณ์มีพฤติกรรมรุนแรง ชอบอาวุธปืนและชอบยิงปืนเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินการตามกฎหมาย หากมีการต่อสู้ขัดขืนก็อาจมีมาตรการตอบโต้ไปตามความเหมาะสมด้วยเช่นกัน