เร่งแก้ปัญหา ศบภ.ทรภ.1 ส่งกำลังชุดแรก 200 นาย และเรือรบ 3 ลำ เข้าร่วม
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.65 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดระยองได้ประกาศปิดชายหาดแม่รำพึง ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าออก โดยมีเจ้าหน้าที่ปิดกั้นเส้นทางแล้ว เพื่อป้องกันอันตราย พร้อมทั้งขอความร่วมมือทางร้านค้าทุกแห่งริมหาดแม่รำพึงปิดร้านทั้งหมด
จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เบื้องต้นได้มีการส่งหน่วยแพทย์ลงไปในพื้นที่ เพื่อช่วยรักษาประชาชนผู้ที่มีอาการแพ้สารเคมี และกลิ่นของน้ำมัน พร้อมฝากเตือนประชาชนในพื้นที่ ไม่ควรอยู่ในพื้นที่คราบน้ำเกยหาด เพราะอาจจะเกิดอาการแพ้ได้ ควรอยู่ห่างจากจุดที่มีกลิ่นน้ำมัน หากเกิดอาการแพ้ขอให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที
จากกรณี เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 28 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคราบน้ำมันลอยมาขึ้นที่ชายหาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมืองระยอง บริเวณตรงข้ามบ้านพร้อมพงศ์ ก่อนถึงบริเวณลานหินขาว-หินดำ ตรวจสอบพบว่า มีกลิ่นฉุนของน้ำมัน เมื่อตรวจสอบน้ำทะเล พบว่ามีคราบน้ำมันสีดำลอยมากับเกลียวคลื่น และมาติดอยู่กับหาดทราย ซึ่งถูกซัดขึ้นมาตลอด และเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจุดที่นำมันขึ้น อยู่ก่อนถึงจุดที่มีการนำทุ่นมาสกัดไว้ ประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่ของ บริษัทฯ มาเก็บตัวอย่างน้ำมันไปตรวจสอบ เบื้องต้นยืนยันว่าอาจจะเป็นคราบเขม่าเรือ อย่างไรก็ตามจะนำไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะมีการตรวจสอบ ตลอดแนวชายหาดทุกๆ 1 กม.ตลอด 24 ชม.
ต่อมา นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมกับมีทหารจากทัพเรือภาคที่ 1 นำกระดาษมาซับเก็บคราบน้ำมันที่ลอยมาไปกำจัด
ล่าสุดในวันนี้ 29 ม.ค.65 ที่บริเวณชายหาดแม่รำพึง หน้าร้านลุงสิน(ป่าคั่น) พบคราบน้ำมันมีความยาวหน้าหาด ประมาน 300-400 เมตร กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ (ศบภ.ทรภ.1) พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผอ.ศบภ.ทรภ.1/ผบ.ทรภ.1/ผอ.ศรชล.ภาค 1 ได้สั่งการให้จัดกำลังพล จาก สอ.รฝ. ชุดแรก จำนวน 200 นาย ในการเข้าแก้ไขปัญหาน้ำมันรั่วไหล ด้วยชุดป้องกันและอุปกรณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน เข้าพื้นที่บริเวณหาดแม่รำพึง พร้อมเรือ ต.267 เรือ ต.273 และ เรือหลวงแสมสาร ในการป้องกันอย่างสูงสุด เข้าสมทบร่วมกับ ปภ.ระยองและจากทีมของ บริษัท SPRC โดยการอำนวยการปฏิบัติของ ศรชล.จว.ระยอง ศรชล.ภาค 1
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี
Channel News Thailand “พื้นที่ข่าวทั่วไทย ออนไลน์ทั่วโลก”