กองทัพเรือเร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลระยอง

ระยอง-โฆษกกองทัพเรือ เผย กองทัพเรือระดมพลเร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลระยองโดยใช้ทุ่นลอบกักแล้วใช้เครื่องดูดหรือ Skimmer ดูดคราบน้ำมัน ซึ่งถือว่าเป็นสารพิษอันตรายจากทะเลสู่ถังเก็บ แล้วนำส่งกรมอุตสาหกรรมเพื่อทำลายต่อไป

พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่ห้องโพธิ์สามต้น หอประชุมกองทัพเรือ เกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันกองทัพเรือ (ศอปน.ทร.) เพื่อเร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลระยอง โดยมีผู้เข้าร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย พลเรือตรี วิฉณุ ถูปาอ่าง ผู้อำนวยการสำนักกิจการความมั่นคงกรมยุทธการทหารเรือนางสาวพรพิมล เจริญส่ง ผู้อำนวยการ กองจัดการคุณภาพน้ํากรมควบคุมมลพิษ นายพิทักษ์ วัฒนพงศ์พิศาล ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำกรมเจ้าท่า และ ดร.พรศรี สุทธนารักษ์รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) มีน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 21.6 น. เป็นเหตุให้น้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลในระดับ 2 ของแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ นั้น กรมเจ้าท่าในฐานะศูนย์ประสานงานการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ได้ประสานไปยังกองทัพเรือเพื่อขอให้จัดตั้งศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการเพื่อดำเนินการขจัดคราบน้ำมันในบริเวณดังกล่าว ตามแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำแห่งชาติ พ.ศ.2545 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พ.ศ. 2547 พร้อมขอรับการสนับสนุนอากาศยานเรือตรวจการณ์และเรือช่วยปฏิบัติงานขจัดคราบน้ำมัน เพื่อปฏิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุ

ในการนี้กองทัพเรือจึงได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันกองทัพเรือ เรียกโดยย่อว่า ศอปน.ทร.ขึ้น โดยมี หน้าที่ในการอำนวยการกำกับการ และประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องในขณะเดียวกันก็สั่งการให้ทัพเรือภาคที่ 1 จัดตั้ง “ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 (ศคปน.ทรภ.1) หรือ On Scene Commander เพื่อทำหน้าที่กำหนดแผนและยุทธวิธี ในการขจัดคราบน้ำมัน ปฏิบัติการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ ตลอดจนอำนวยการประสานกับส่วนราชการ และหน่วยงานภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดรวมทั้งสั่งการหน่วยสนับสนุนต่างๆ โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2565 เป็นต้นมา โดยจะปฏิบัติภารกิจจนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย

การดำเนินการที่ผ่านมา ทัพเรือภาคที่ 1 ได้ส่งเครื่องบินลาดตระเวนขึ้นบินสำรวจคราบน้ำมันทางอากาศและเรือ ต. 273 กับเรือต.228 ออกตรวจสอบคราบน้ำมันบนผิวน้ำนอกจากนั้นได้จัดเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ขึ้นบินตรวจสอบทิศทางการรั่วไหลของคราบน้ำมัน รวมถึงนำสารเคมีขึ้นไปโปรยบริเวณพื้นที่เกิดเหตุหน้าท่าเรือมาบตาพุดนอกจากนี้ยังได้เตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ พร้อมในการสนับสนุนหน่วยต่างๆในการขจัดคราบน้ำมัน

ด้าน พลเรือตรี วิฉณุ ถูปาอ่าง ผู้อำนวยการสำนักกิจการความมั่นคงกรมยุทธการทหารเรือได้เปิดเผยถึงการดำเนินการว่า ได้วางแผนขจัดคราบน้ำมันในทะเลโดยได้แบ่งเป็น 2 ลักษณะคือการขจัดคราบน้ำมันขนาดใหญ่ ดำเนินการโดยใช้ทุ่นลอบกักแล้วใช้เครื่องดูดหรือ Skimmer ดูดคราบน้ำมัน ซึ่งถือว่าเป็นสารพิษอันตรายจากทะเลสู่ถังเก็บ แล้วนำส่งกรมอุตสาหกรรมเพื่อทำลายต่อไป ส่วนบริเวณที่เป็นหาดทรายจะใช้รถ แบคโฮตักคราบน้ำมันที่ปะปนกับทรายแล้วนำไปทำลาย

ขณะที่นายพิทักษ์ วัฒนพงษ์พิศาล ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำกรมเจ้าท่า กล่าวว่าได้ระงับการรั่วไหลปิดวาล์วได้หมดแล้ว พร้อมเฝ้าระวังมลพิษที่ค่อนข้างมีปริมาณมาก จึงยกระดับให้กองทัพเรือเป็นหน่วยบัญชาการเหตุการณ์เร่งด่วน คือการเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวดูทิศทางการเคลื่อนที่ และคลื่นลม ไม่ว่าจะไปทางใดและปริมาณที่ลงทะเลแพร่กระจายมากน้อยแค่ไหน

นางสาวพรพิมล เจริญส่ง ผู้อำนวยการ กองจัดการคุณภาพน้ํากรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยถึงแนวทางของกรมควบคุมมลพิษคือตรวจสอบค่าน้ำทะเลและให้อนุญาตสำหรับปริมาณการใช้สารขจัดคราบน้ำมันด้วยสาร ดิสเพอร์แซนท์ โดยครั้งนี้ใช้ในอัตรา 1 : 10 และ จัดทำแผนฟื้นฟู

ในส่วนของ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยถึงความความกังวลของคราบน้ำมัน ที่จะส่งผลต่อทรัพยากรใต้ทะเลที่มีแนวปะการัง 150 ไร่ และย่าทะเล 300 ไร่พร้อมยืนยันว่าจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งการดำเนินการและทรัพยากรที่เสียหาย และในระยะยาวจะมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรขึ้นมาดูแล

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง