บุกค้นบริษัทคริปโตเถื่อน รับแลกเงินพนัน พบอดีตกรรมการ ถูกดำเนินคดีเพียบ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล , พ.ต.ต.หญิง จันทร์เพ็ญ โตสาคร   สว. กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.  เข้าตรวจค้น บริษัทแห่งหนึ่ง แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.   ร่วมกันจับกุม 1. น.ส.วันวิสาข์ฯ อายุ 35 ปี   2. นายอรรณพฯ อายุ 40 ปี   โดยทั้ง 2 เป็นสามีภรรยากัน และเป็นผู้ก่อตั้งและอดีตกรรมการบริษัท ซึ่งการตรวจค้นมี น.ส.วันวิสาข์ฯเป็นผู้นำตรวจค้น

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากผู้เสียหายมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีเนื่องจากถูกหลอกให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล(เงินเหรียญดิจิทัล) โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง แต่เมื่อผู้เสียหายทำการโอนเงินเหรียญดิจิทัลให้กับคนร้าย กลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คนร้ายอ้าง โดยคนร้ายทำการโอนเงินตอบแทนให้ผู้เสียหายแค่จำนวนนึง ซึ่งคนร้ายอ้างว่าหากจะได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น ผู้เสียหายต้องทำการโอนเงินเหรียญดิจิทัลให้กับคนร้ายเพิ่มเติม ถึงจะได้ผลตอบแทนมากขึ้นและจะสามารถถอนเงินเหรียญดิจิทัลที่ผู้เสียหายลงทุนไปคืนได้ ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกหลอก จึงได้มาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนพบเครือข่าย ร้านรับแลกเหรียญเถื่อน จึงวางแผนดำเนินการเข้าตรวจค้น บริษัทดังกล่าว ที่มีการรับถ่ายโอนสินทรัพย์ดิจิทัล (เงินเหรียญดิจิทัล) จากคนร้าย ในคดีที่ผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์ไว้

ผลการตรวจค้น พบเอกสารเกี่ยวกับบริษัท และเอกสารเกี่ยวกับบัญชีการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมาก จากการตรวจสอบบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลพบว่า มีการซื้อขายเหรียญนอกศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล(นอกกระดานซื้อขาย) โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติ เช่น ชาวมาเลเซีย ชาวกัมพูชา ชาวจีน และชาวต่างชาติอื่นๆ ซึ่งบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลของ น.ส.วันวิสาข์ฯ มีสินทรัพย์ดิจิทัลหมุนเวียนจำนวนมาก คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท และบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลของสามีและอดีตกรรมการบริษัทดังกล่าว คือ  นายอรรณพ ฯ มีสินทรัพย์ดิจิทัลหมุนเวียนคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่ากว่า 2,700 ล้านบาท ในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี ซึ่งขณะเข้าตรวจค้น พบว่า นายอรรณพ ฯ กำลังถูกดำเนินคดีในข้อหา การพนัน,ฟอกเงิน  และยาเสพติด ตามหมายจับของ บช.สอท.  อีกด้วย

จากการสอบถามเบื้องต้น นายอรรณพฯ ทราบว่า ประกอบอาชีพรับแลกเปลี่ยนเหรียญกับชาวต่างชาติ  (เช่น ชาวมาเลเซีย ชาวกัมพูชา ชาวจีน) โดยลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นลูกค้ารายใหญ่มีการแลกเปลี่ยน หลัก 10,000 USDT โดยจากการสืบสวนพบบัญชีคริปโตดังกล่าวใช้รับแลกเหรียญทั้งจากแก็งคอลเซ็นเตอร์, บัญชีการพนัน และบัญชียาเสพติดอีกด้วย

เตือนภัย กก.3 บก.ปอศ. ขอแจ้งเตือนบริษัทหรือบุคคลที่มีการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในลักษณะซื้อขายเหรียญ รับแลกเหรียญนอกศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (นอกกระดานซื้อขาย) ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อาจทำให้ตกเป็นผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี เป็นผู้ร่วมขบวนการกับกลุ่มคนร้ายได้ ดังนั้น กก.3 บก.ปอศ. จึงขอแจ้งเตือนให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ดำเนินการขอใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามกฎหมายกับ ก.ล.ต. ให้ถูกต้อง และประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบบริษัทหรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. ได้ทาง Web Site“SEC Check First”

Related posts