กล้วยน้ำว้าเมืองเบตงแพงเหตุช่วงเม.ย.-พ.ค.อากาศร้อนแห้งแล้ง ต้นกล้วยตาย

ที่ร้านขายส่งผลไม้สี่แยกบ้านนาข่อย อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นร้านขายส่งผลไม้ พบว่าช่วงนี้กล้วยน้ำว้าออกผลผลิตน้อยทำให้กล้วยมีราคาสูงขึ้นกว่าเท่าตัว จากเดิมราคาต่ำสุดหวีละ 10 – 20 บาท แต่ปัจจุบันราคาสูงสุดตอนนี้อยู่ที่หวีละ 60-70 บาท ในพื้นที่กล้วยน้ำว้าไม่ขาดเริ่มออกผลผลิตแล้ว

นางอาซีซะห์ หรือ กะซะห์ แม่ค้าขายกล้วย กล่าวว่า ช่วงนี้กล้วยน้ำว้าที่อื่นมีราคาแพงมาก สาเหตุที่กล้วยน้ำว้ามีราคาแพง เนื่องจากในช่วงเดือน เม.ย – พ.ค ที่ผ่านมา มีอากาศร้อนและแห้งแล้ง ทำให้ต้นกล้วยยืนต้นตาย ซึ่งช่วงนี้กล้วยหลายพื้นที่ขาดตลาด แต่ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา กล้วยน้ำว้าและกล้วยชนิดอื่นไม่ขาด แต่มีผลผลิตออกมาน้อย เพราะก่อนหน้านี้เกิดภัยแล้งทำให้ต้นกล้วยยืนต้นตาย แต่ตอนนี้เริ่มออกผลผลิตแล้ว ช่วงนี้ก็รับซื้อกล้วยจากเกษตรกรในพื้นที่ อ.เบตง ซึ่งที่ อ.เบตง

ทั้งนี้มีการปลูกกล้วยแซมกับต้นยางพาราและผลไม้ชนิดอื่นๆด้วยทำให้ปริมาณของกล้วยน้ำว้าและกล้วยชนิดอื่น ไม่ค่อยขาด ซึ่งที่ร้านขายส่งผลไม้รวมทั้งกล้วยด้วย บางแห่งกล้วยขายยากเพราะมีราคาสูงขึ้น ลูกค้าไม่สู้ราคาลูกค้า มีแต่ลูกค้าบ่น แต่ที่ร้านไม่เคยมีลูกค้าบ่นเพราะที่ร้านขายกล้วยและผลไม้ ในราคาส่ง ลูกค้าบางคนก็ซื้อไปทานเอง บางคนก็นำไปขายต่อบวกราคาหวีละ 5 บาท บางคนก็ซื้อไปทำโรตี ที่ร้านถือว่ากล้วยมีตลอดแต่ไม่มากและไม่แพง

นางอาซีซะห์ หรือ กะซะห์ แม่ค้าขายกล้วย กล่าวอีกว่า ที่ร้านขายกล้วย โดยกล้วยน้ำหว้า กก.ละ 20 บาท กล้วยหิน กก.ละ 25 บาท กล้วยนางยา กก.ละ 20 บาท กล้วยหอมทอง กก.ละ 30 บาท กล้วยหอมเขียว กก.ละ 25 บาทและกล้วยไข่ กก.ละ 20 บาท ส่วนกล้วยนางยาขายส่งไปมาเลเซีย กก.ละ 23 บาท และกล้วยน้ำหว้า ขายส่งไปมาเลเซีย กก.ละ 20 บาท เพราะชาวมาเลเซียชอบรสชาติของผลไม้ไทยจึงนิยมซื้อกันไปเป็นจำนวนมาก โดยใน 1 อาทิตย์จะส่งไป 2 ครั้ง ตามออเดอร์ที่เขาสั่งมา

โดย..เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา

Related posts