เด็กรุ่นใหม่ฟแรงที่เติบโตมาจากลูกหลานเกษตรกร คลุกคลีอยู่กับไร่กาแฟ ทำสวนบนดอยมาตั้งวัยเยาว์ จนครอบครัวส่งเสียไปศึกษาเล่าเรียนในเมือง จนจบระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง วิทยาลัยเทคนิคฯ สายวิชาชีพช่างไฟฟ้า แต่ดูเหมือนว่า ชีวิต ฤษดาพันธ์ หงส์อาจหาญ กลับไม่ได้ใช้วิชาที่เล่าเรียนมาประกอบอาชีพยึดเป็นหลักแหล่งทำมาหากิน
ด้วยความที่พี่ชายทำไร่ ทำฟาร์มปลูกพืชเมืองหนาว ทำข้าวไร่ ปลูกกาแฟ บนที่ดินมรดกจากบรรพบุรุษมอบให้ไว้ทำมาหากิน จึงไม่มีคนมาช่วยงานทางบ้านกับพี่ชาย จึงตัดสินใจมาอยู่ใช้ชีวิตแบบชาวดอย เริ่มศึกษาการทำไร่กาแฟ ปลูกผัก เนื่องจากว่าสมรภูมิทำเลที่ตั้ง อยู่ที่อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ปลูกไร่กาแฟ อยู่ในภูมิประเทศอากาศหนาวเย็น บริเวณป่าต้นน้ำ ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ทำเกษตรกันมาตั้งรุ่นย่า ตาทวด ส่งต่อมาถึงรุ่นหลานๆในปัจจุบัน
กฤษดาพันธ์ เล่าว่า ตอนนี้ต้นกาแฟที่ปลูกมานานราว 40-50 ปี สมัยรุ่นคุณทอด โกกิมาดูแลต่อ ได้ทำการศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ หาตลาดเอง หาความรู้ในการผลิตกาแฟเอง เริ่มตั้งแต่การดูไร่กาแฟ กระบวนการโพรเสส คั่ว ขาย จัดกระบวนการทั้งหมด และยังเปิดไร่กาแฟให้เป็นแหล่งเรียนรู้กับคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวที่ได้โอกาสมาชมความงดงามทางธรรมชาติ ป่า สวนเกษตร และไร่กาแฟ
อีกทั้ง ได้เรียนรู้ วัฒนธรรมวิถีชีวิต วัฒนธรรม ชุมชนปาเก่อญอ รวมทั้ง กระบวนการทำกาแฟ การคั่ว การชง การชิม ซึ่งเป็นการทำกาแฟเพื่อชุมชนให้มีคุณภาพ ยิ่งในปัจจุบัน เกษตรกรเชิงเดี่ยวกล่าวคือ การปลูกพืชอย่างเดียวในเนื้อที่จำนวนมากๆกำลังนิยม ซึ่งในอนาคตมีแผนพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร เพื่อที่สร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน โดยที่ชาวบ้านมีผลผลิตทางการเกษตร สามารถนำมาขายได้ อย่างน้อยช่วยสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง
อย่างปัจจุบันกาแฟ สามารถที่นำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเปลือกกาแฟนำมาบดใช้ผสมทำเครื่องสำอางและเวชภัณฑ์ได้ นอกเหนือจากการขายเมล็ดกาแฟ ,สารกาแฟกรีนบีมและอื่นมากมาย