“ดึงเช็ง” คดีหมูเถื่อน ใครได้ : ใครเสีย?

2 ปีมาแล้ว ที่คดี “หมูเถื่อน” ยังอึมครึมไม่สามารถ “ลงดาบ” กับเครือข่ายหนุนหลังขบวนการนำเข้าเนื้อสัตว์ผิดกฎหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นายทุน ข้าราชการระดับสูง ล้วนยังอยู่ในความมืด ขณะที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ย้ำมาโดยตลอด ว่า เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์และกรมประมง มีความผิดทางวินัยที่ปล่อยให้เนื้อสัตว์เถื่อนเหล่านี้เข้ามาในประเทศ พร้อมส่งสำนวนให้สำนักงานคณะกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนบริษัทนำเข้าและชิปปิ้ง 10 ราย ที่กระทำผิด…พวกเขาใช่ตัวการที่แท้จริง หรือ แค่จับไปก่อนให้มีคนผิด?

การที่ ดีเอสไอ ทยอยส่งคดีหมูเถื่อนไปยัง ป.ป.ช. เหมือนส่งไปพักรอยืดเวลาพิจารณาคดี “ดึงเช็ง” ใช้เวลาให้นานที่สุด ไม่ทราบว่าเป็นเพราะคดีนี้เกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือผู้ใกล้ชิดนักการเมืองหรือไม่ วิธีการนี้จะทำให้ทั้ง ป.ป.ช. และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ต้องรับไม้ต่อ ต้องพิจารณาคดีล่าช้าออกไปเช่นกัน ด้วยทั้ง 2 หน่วยงาน มีคดีอยู่ในมือจำนวนมาก และการพิจารณาคดีหมูเถื่อนที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงกันระหว่างบริษัทนำเข้ากับนายทุน และอาจถึงผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและรอบด้าน ยิ่งทำให้เสียเวลานานขึ้นอีก เห็นได้ว่าประโยชน์ไม่ตกกับประเทศชาติ เพราะผู้กระทำผิดถูกพิพากษาล่าช้า

การสอบสวนคดีหมูเถื่อน ยิ่งยืดเยื้อเท่าไร ยิ่งถูกสังคมจับตามอง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ยังเคลือบแคลงใจมองว่าเมื่อไหร่ ดีเอสไอ จะเปิดหน้าคนผิดตัวจริงที่สร้างภาระขาดทุนให้พวกเขาแบกมาจนถึงทุกวันนี้นานกว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งหมูเถื่อนที่ทะลักเข้าไทยช่วงปี 2565-2566 จับกุมได้มากกว่า 70,000 ตัน ฉุดราคาในประเทศจากประมาณ 97 บาทในปี 2566 ร่วงลงต่ำที่สุดเหลือ 50 บาทต่อกิโลกรัม กว่าจะโงหัวขึ้นมายืนอยู่ที่เฉลี่ย 60-70 บาทต่อกิโลกรัมได้ในปีนี้ ต้องใช้เวลาหลายเดือน ผู้เลี้ยงหมู ย้ำ “คนผิดต้องถูกลงโทษตามกฎหมายและชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด”

เชื่อว่าหมูเถื่อนยังมีตกค้างอยู่ในห้องเย็นหรือเขตปลอดภาษีอากรภายใต้ Free Zone และหากหมูเถื่อนเหล่านี้หลุดรอดออกไปในตลาดทั่วประเทศได้ ก็จะเป็นชนวนฉุดให้ราคาตกต่ำอีกครั้งได้ สวนทางกับการผลิตที่เกษตรกรพยายามฟื้นฟูให้เข้าสู่ภาวะอุปสงค์-อุปทานสมดุล หลังเกิดโรคระบาด ASF ในปี 2565

ก่อนหน้านี้ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ตั้งคำถามว่า ทำไมการดำเนินคดีหมูเถื่อนถึงล่าช้า หากดูแนวทางการดำเนินคดีของ ดีเอสไอ จากการแถลงข่าวช่วงที่ผ่านมา สำนวนคดีส่วนใหญ่ถูกส่งไปที่ ป.ป.ช. จะเป็นไปได้หรือไม่ที่การสอบสวนดคีหมูเถื่อนโดย ดีเอสไอ จะดำเนินการสอบสวนอย่างครบถ้วนและรอบด้าน และส่งตรงไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือ อัยการ สู่ขั้นตอนการพิพากษาของศาลได้รวดเร็วกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จะได้เห็นหน้าคนบงการที่บ่อนทำลายประเทศและเกษตรกรเลี้ยงหมูกันชัดๆ เสียที

ที่ผ่านมา คดีหมูเถื่อน มีการพูดถึงนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง เปิดชื่อย่อ ป, ผ, ช… ตลอดจนนายทุนที่ถูกจับกุมได้หลายคน แต่จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่ถึงมือศาลได้พิพากษาลงโทษ ก็ได้แต่ฝากความหวังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าจะ “ขุดราก ถอนโคน” ทั้งนายทุนผู้อยู่เบื้องหลัง นักการเมืองหรือผู้บงการเสียที เพราะยิ่งช้ามากเท่าไรคนผิดจะได้ประโยชน์มากเท่านั้น ส่วนฝ่ายที่เสียประโยชน์คือคนเลี้ยงหมูและประเทศไทยของทุกคน.

โดย…ศิริกุล สดับสำเนียง นักวิชาการอิสระด้านปศุสัตว์

Related posts