ชัยภูมิ-ไม่กล้าก็บ้าไปแล้ว ! โจรแสบล้วงคองูเห่างัดบ้าน ตร.ขโมยปืน 2 กระบอกเสียหายร่วม 2 แสน ตำรวจย้ำให้นำปืนมาคืน หากใช้อาวุธปืนต่อสู้หรือขัดขืนถูกจับตาย
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก ส.ต.อ.อภินันท์ อนันเต่า อายุ 33 ปี ว่าเกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 ที่ผ่านมามีหัวขโมยใจกล้าบุกงัดบ้านตนเองซึ่งเป็นตำรวจ ได้ทรัพย์สินหายไปร่วมกว่า 200,000 บาท มีทองคำหนัก 1 บาท อาวุธปืนสั้นขนาด .9 มม.มีทะเบียน 2 กระบอก และกระปุกออมสินของลูกมีเงินอยู่อีกประมาณ 3,000 บาท หายไปจากบ้านพักเลขที่ 23/1 ต.ภูเขียว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ
จากการสอบถาม ส.ต.อ.อภินันท์ อนันเต่า อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นตำรวจทำงานอยู่ที่ จังหวัดนาราธิวาส ชายแดนภาคใต้ ได้ประมาณ 2 ปี ก่อนได้ย้ายกลับบ้านมาประจำอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ เพี่อมาดูแลครอบครัวอยู่ที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ได้ไม่นานก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้กลับตนเอง เพราะทำงานตำรวจออกช่วยเหลือชาวมาตลอด หลังเมื่อช่วงวันที่ 1 พ.ย.66 ตนเองและครอบครัวได้เดินทางไปช่วยงานบวชญาติที่ จ.นครราชสีมา และพอเสร็จงานจึงได้เดินทางกลับบ้าน มาพอเปิดประตูเข้าบ้านเข้ามา เห็นไฟเปิดอยู่ในบ้าน จึงถามภรรยา และแม่ ว่าได้เปิดไฟทิ้งไว้หรือเปล่า ตนแปลกใจเห็นความผิดปกติภายในบ้าน จึงกลับมาเอาอาวุธปืนที่อยู่ในรถ และกลับเข้าไปในบ้าน แต่ก็ไม่พบใคร แต่เห็นความผิดปกติ จึงสำรวจทรัพย์สินภายในบ้าน ที่หายไป
ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเขียว ให้เข้ามาช่วยตรวจสอบ ซึ่งมีทรัพย์ถูกโจรใจกล้าล้วงคองูเห่ามาแบงัดบ้านขโมยทรัพย์สินครั้งนี้หายไปจำนวนมากทั้ง รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท มีทั้งทองคำหนัก 1 บาท อาวุธปืนสั้นขนาด .9 มม.มีทะเบียนของตนเองอีก 2 กระบอก และกระปุกออมสินของลูกในนั้นมีเงินอยู่อีกประมาณ 3,000 บาท หายไป
ต่อมาได้ประสานเจ้าหน้าที่จากกองพิสูตรหลักฐานมาเข้าตรวจสอบเก็บฐาน ตรวจสอบลายนิ้วมือในสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเร่งติดตามโจรแสบรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ขอเตือนโจรรายนี้ควรนำอาวุธปืนของตำรวจมาคืน และมอบตัว หากมีการใช้อาวุธปืนต่อสู้หรือขัดขืนการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ก็จำเป็นที่จะดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป