สมาพันธ์ครู ระอุ จ่ายเงินเดือน 2 หน / เดือน แต่เพิ่มภาระ “หน้างาน” ต้องเพิ่มงานเพิ่มค่าใช้จ่าย น่าจะขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการบำนาญวัย 75 ปี จะดีกว่า เพราะบางรายมีรายได้เหลือเดือน 2,000 – 4,000 บาท / เดือน
นายประทุม เรืองฤทธิ์ ประธานสมาพันธ์ครูภาคใต้ เปิดเผยว่า ตามคณะรัฐมนตรีได้มีมติ การจ่ายเงินเดือน เดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีที่กระตุ้นการใช้จ่ายในภาคราชการในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่จะกระทบปัญหาต่างๆ มากมายตามมาด้วยเรื่องเงินเดือนข้าราขการในบางประเภทผูกติดกับระบบการหัก ณ ที่จ่ายหลายรายการเช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ ที่หัก ณ ที่จ่าย เป็นภาระให้กับหน่วยงานต้นสังกัดตามข้อตกลงในการหักเงินส่งใช้สหกรณ์
ซึ่งจะเป็นภาระงานให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และการคำนวณค่าตอบแทนในการหัก ณ ที่จ่าย นั้นหมายถึงสหกรณ์จะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี เพราะมีภาระงานเพิ่มแน่นอนว่าโดยสถานภาพทางการเงินของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ย่อมนำมาซึ่งปัญหาที่ตามมาเพิ่มขึ้น การหักเงิน ณ ที่จ่ายของ ขพค. ชพส. ไม่สามารถแบ่งจ่ายได้เพราะตัวเลขไม่สามารถสรุปได้ในระหว่างรอบครึ่งเดือน ก่อนปัญหาการเรียกเก็บต่อไปและกระทบต่อสถานภาพของกองทุนในอนาคต
นายประทุม กล่าวอีกว่า ในระบบเงินเดือนบุคลากรในแต่ละหน่วยงานมีกำจัด เป็นการเพิ่มภาระงานโดยไม่จำเป็น และอาจเป็นการสร้างเงื่อนไขในการเพิ่มบุคลากรภาครัฐขึ้นในอนาคต แม้ในภาวะปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีมาช่วยงาน แต่ในหน้างานระดับการปฏิบัติ บุคลากรทำงานยังมีความสำคัญจึงเป็นประเด็นที่ต้องทบทวนให้รอบคอบว่า มติดังกล่าว ก่อผลให้เกิดในด้านใด ได้หรือเสียมากกว่ากัน
“เป็นการดีในการจ่ายเงินเดือน 2 ครั้ง / เดือน แต่เพิ่มภาระให้กับหน้างาน เช่น สหกรรณ์ จะเพิ่มภาระให้กับบุคลากร ในขณะที่บุคลากรไม่พออยู่แล้ว ก็จะต้องเพิ่มบุคลากร และเพิ่มเงิน เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายไปอีก เพราะการเบิกเงินเดือนแต่ละครั้งบางคนจะต้องจ่ายเงินค่าผ่อนส่ง ทั้งธนาคาร ทั้งบ้านที่อยู่อาศัย และรถ ฯลฯ งานนี้จะต้องบานปลายอีก”
นายประทุม ยังกล่าวอีกว่า ที่น่าจะเป็นการดีกว่า น่าจะเพิ่มเงินเดือนข้าราชการบำนาญสมัยเดิม ๆ เพราะยุคก่อนตอนนี้อายุประมาณ 75 ปีขึ้นไปยังมีอยู่จำนวนมาก เพราะสมัยนก่อน นั้นข้าราชการเงินเดือนน้อยเป็นข้าราชการบำนาญก็ได้ปริมาณน้อยบางรายเหลือ 2,000 บาท 4,000 บาท และ 5,000 บาท น่าเพิ่มให้เพราะ 20 ปีมาแล้วที่ไม่ได้เพิ่มขึ้น น่าจะเป็นส่วนที่ดี.
โดย…อัสวิน ภักฆวรรณ