เมนูอาหารจานเด็ดราคาหลักหมื่น ลูกค้าช็อคเช็คบิลหลักแสน พลิกคัมภีร์การตลาดยุคใหม่ ปลุกกระแสกล่าวขานฮิตติดลมบน

เศรษฐี เศรษฐา..เศรษฐา เศรษฐี ชื่อนี้คนไทยทั้งประเทศรู้จักเป็นอย่างดีในฐานะ“นายเศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ถือว่าเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของเมืองไทยที่กลายเป็นผู้นำประเทศ ทำให้ใครต่อใครต่างก็อิจฉา ตาร้อน อยากรวยเหมือน กับ”ฯพณฯท่านเศรษฐา”คิดอยากทำอะไร กินอะไร ก็ได้ดังใจ แต่ทุกคนก็สามารถเป็นมหาเศรษฐีได้ไม่ต้องเสียใจ แค่แวะไปทานอาหารที่”ร้านตำหลวงพระบาง”ทุกท่านจะกลายเป็นมหาเศรษฐีดังสมใจอยาก เพราะเมนูอาหารที่ร้านแห่งนี้คิดราคาเมนูตั้งแต่หลักหลายหมื่นบาท เช็คบิลค่าอาหารแต่ละครั้งหลักหลายแสน ทุกคนเห็นแล้วถึงกับช็อคตาตั้ง ขาสั่นจนลุกจากโต๊ะอาหารแทบไม่ไหว…เพราะไม่มีปัญญาจ่ายค่าอาหาร

 

ค่าอาหารแสนแพงดังกล่าว “คุณอิทธิพล แสงจรัสพงศ์”เจ้าของร้านตำหลวงพระบาง ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 1065 หมู่ที่ 2 ถนนศรีโพธิ์กลาง ปาริชาติ ซอย 2 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา (หลังค่ายสุรธรรมพิทักษ์) ออกมาเฉลยเรียกเสียงฮาน้ำลายกระจายสนั่นร้านเพราะเมนูหลักหมื่น เช็คบิลหลักหลักแสน นั้นเป็นการพลิกกลยุทธ์ ฉีกหนีแนวการทำการตลาดซ้ำซาก ให้เป็นกลยุทธ์เหนือเมฆ สร้างกระแสให้ลูกค้ากล่าวขานทั้งออนไลน์และออฟไลน์จนประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจนลูกค้านำไปกระหน่ำแชร์ผ่านโลกออนไลน์ดังครึกโครม

เจ้าของร้านตำหลวงพระบาง กล่าวว่า เดิมทีร้านของตนเองก็เป็นร้านอาหารจุ่มแซ๊บ ต่อมาเมื่อช่วงก่อนไวรัสโควิด-19 ระบาด ได้ไปเปิดร้านอาหารอีกแห่งอยู่ที่ประเทศลาว ต่อมาเมื่อโควิดระบาดก็ปิดกิจการจึงกลับมาดูแลกิจการร้านจุ่มแซ๊บที่นี่เป็นหลัก แต่ด้วยปัญหาเศรษฐกิจหลายอย่าง ทำให้ร้านอาหารซบเซามาก ประกอบกับกระแสคนเล่นโซเชี่ยลได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ตนเองจึงปิ๊งไอเดีย ทำร้านอาหารลาว โดยทำเมนูเป็นภาษาลาว และคิดเงินเป็นเงินบาทคู่กับเงินกีบของลาวด้วย เมื่อลูกค้ามาสั่งอาหารที่ร้านเห็นเข้า ก็รู้สึกชอบใจ ถ่ายรูปบิลค่าอาหารแชร์ต่อให้เพื่อนๆ ในโซเชี่ยลกันอย่างสนุกสนาน เพื่ออวดว่าวันนี้มารับประทานอาหารจ่ายเงินหลายแสนกันเลยทีเดียว ก่อนมาเฉลยกันว่าหลายแสนกีบ ทำให้มีลูกค้าบอกกันปากต่อปาก และพากันมาอุดหนุนที่ร้านเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก ซึ่งจุดประสงค์ของตนเองคืออยากให้ลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้าน ได้มีความสุขกับการรับประทานอาหารที่อร่อย แล้วมีรอยยิ้ม กลับไปบ้านกันทุกคนด้วย

หลังจากนั้นก็มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนที่ร้านไม่ขาดสาย มารับประทานอาหารเมนูแสนแพงท่ามกลางบรรยากาศภายในร้าน ตกแต่งเป็นสไตล์อีสาน มีสระน้ำอยู่ตรงกลาง โดยรอบตกแต่งเป็นน้ำพุ น้ำตก และธรรมชาติร่มรื่น โดยมีซุ้มกลางน้ำให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารอยู่หลายซุ้ม พนักงานเสิร์ฟจะแต่งกายนุ่งผ้าถุงสัญลักษณ์ของสาวหลวงพระบาง ประเทศ สปป.ลาว ส่วนเมนูอาหารที่ร้าน ก็จะเป็นอาหารพื้นเมืองอีสาน และมีเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน เป็นอาหารพื้นเมืองของหลวงพระบาง เช่น ตำหลวงพระบาง ซึ่งจะใช้มะละกอที่ฝานเป็นแผ่นใหญ่ๆ บางๆ ใส่กะปิและน้ำปูจากลาวเป็นส่วนผสม เพิ่มความหอมแซ๊บนัว, ยำโต่ง หมู-เนื้อ ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองภาคเหนือของ สปป.ลาว ที่ขาดไม่ได้คือใส่กะปิจากลาวเป็นส่วนผสม เพิ่มรสชาติหอมอร่อย แตกต่างจากยำทั่วไป, เฝอ หมู เนื้อ ไก่ หมูกรอบ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยวของไทย แต่เส้นจะใหญ่และนุ่มกว่า มีมะเขือเทศฝานใส่ 2-3 ชิ้น น้ำซุปจะมีความหอม รสชาตินัวอร่อยสไตล์ลาวแท้ และต้มซั่วไก่ฉีก ซึ่งจะมีรสชาติคล้ายกับต้มแซ่บบ้านเรา แต่จะมีผักแพ้วเป็นส่วนผสมหลัก เป็นจุดเด่นทั้งเรื่องความหอมอร่อยและสุขภาพอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านได้เพิ่มสีสันให้ร้าน ด้วยการนำป้ายบอกทางมาติดไว้บริเวณโขดหินทางเข้า ซึ่งมีข้อความว่า “บ้านเมียหลวง 500 กม., บ้านกิ๊ก 300 ม., บ้านเมียน้อย 500 ม. และบ้านท่าจะแห้ว 370 กม.” ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะให้กับลูกค้าที่มาอุดหนุนได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้สีสันไฮไลน์ของร้านที่กำลังกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกโซเชี่ยล คือการคิดค่าอาหารเป็นเงินกีบของลาว ซึ่งในเมนูจะมีการแจ้งไว้ 2 ภาษา คือภาษาไทย และภาษาลาว พร้อมกับระบุราคาอาหารแต่ละเมนูเป็นเงินบาท คู่กับเงินกีบด้วย เช่น นำหลวงพระบาง ราคา 70 บาท/35,000 กีบ, ตำซั่วไก่ฉีก ราคา 100 บาท/50,000 กีบ และยำโต่ง หมู เนื้อ ราคา 100 บาท/50,000 กีบ เป็นต้น ถ้ามารับประทานอาหารเป็นครอบครัว เมื่อถึงเวลาเช็คบิลแต่ละครั้ง ต้องจ่ายเงินหลายแสน(กีบ)กันเลยทีเดียว อย่างเช่นครอบครัวของนายประพันธ์ ด่วนทวีสุข ลูกค้ารายหนึ่ง ที่นำครอบครัวมารับประทานอาหาร สั่งเมนูอาหารเต็มโต๊ะ เมื่อถึงคิวเช็คบิล พนักงานแจ้งว่าคิดเงินรวมทั้งหมด 447,500 ทำเอาลูกค้าสะดุ้งตกใจ ต้องถามย้ำอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ ก่อนที่พนักงานจะเฉลยว่าเป็นมูลค่าเงินกีบ ส่วนเงินบาทไทย จ่ายแค่ 895 บาทเท่านั้น ทำให้ลูกค้าโล่งใจและหัวเราะชอบใจกันเป็นอย่างมาก

มาฟังเสียงลูกค้า อย่างคุณ นายประพันธ์ ด่วนทวีสุข ที่พาครอบครัวมารับประทานอาหารที่ร้านแห่งนี้ บอกว่าว่า เมนูอาหารที่ร้านแห่งนี้ไม่เหมือนบ้านเรา แต่เป็นเมนูจาก สปป.ลาว ซึ่งจะมีรสชาติที่หารับประทานไม่ค่อยได้ในบ้านเรา โดยเฉพาะตำหลวงพระบาง ซึ่งมีการฝานมะละกอเป็นเส้นใหญ่ และใส่กะปิจาก สปป.ลาวด้วย รสชาติแซ๊บจัดจ้านมาก ใครที่เป็นสายส้มตำต้องอย่าพลาดกันเลยทีเดียว

สำหรับร้านอาหาร “ตำหลวงพระบาง” ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 1065 หมู่ที่ 2 ถนนศรีโพธิ์กลาง ปาริชาติ ซอย 2 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา (หลังค่ายสุรธรรมพิทักษ์) โดยร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.30-21.30 น. ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลได้ผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจ “ตำหลวงพระบาง by อุ่นโฮมสเตย์” หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 044-078797, 092-5325594 และ 083-3864499 (คุณเต้).

โดย…ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา

Related posts