ชลบุรี-อดีตกรรมการตัดสินฟุตบอลไทยลีกคลั่ง ถือมีดสปาต้าบุกฟันหัวสาวใหญ่เสียชีวิตคาเกสต์เฮาส์ย่านจอมเทียน จ้วงแทงท้องตัวเองไส้ทะลัก ด้านผู้กำกับเมืองพัทยาเผยปมสังหาร น่าจะมาจากปัญหารักสามเส้า แฉก่อนเกิดเหตุร้ายไม่กี่เดือนเหยื่อเพิ่งเข้าแจ้งความถูกฝ่ายชายโทร.ข่มขู่หมายเอาชีวิต
ร.ต.อ.ชลวิทย์ อธิพันธ์สี รอง สว. (สอบสวน) หน่วยสอบสวนย่อยโค้งดงตาล สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 22 ก.ค2566 เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดฆ่ากันตายภายในอาคาร เดอะปาล์ม ดีไลท์ ลอร์ด เลขที่ 75/106 หมู่ 12 ถนนเลียบชายหาดจอมเทียน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส. กำลังสายตรวจ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายกาแฟและอาหาร ส่วนชั้น 2-3 เปิดเป็นห้องพักในรูปแบบเกสต์เฮาส์ ที่พื้นชั้นล่างพบคราบเลือดนองพื้น และพบนายสุนทร หรือเบน พอใจ อายุ 57 ปี เทรนเนอร์สถานฟิตเนส และอดีตกรรมการตัดสินฟุตบอลไทยลีก อยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ตะโกนโวยวายเลือดไหลท่วมร่าง ลำคอมีแผลเหวอะหวะ ในมือถือมีดสปาต้ายาวประมาณ 40 ซม. ใช้เชือกรัดด้ามมีดติดกับข้อมือไว้แน่น กวัดแกว่งมีดไปมาไม่ให้ใครเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่รอจังหวะให้นายสุนทรอ่อนแรง ก่อนจู่โจมเข้าชาร์จควบคุมตัวและยึดมีดสปาต้าไว้ ปรากฏว่านายสุนทรวูบหมดสติล้มฟุบกองกับพื้น นอนหายใจรวยริน เนื่องจากเสียเลือดมาก ทีมกู้ภัยรีบปฐมพยาบาลแล้วนำตัวส่ง รพ.เมืองพัทยา เบื้องต้นพบถูกแทงด้วยมีดเข้าหน้าท้องจนไส้ทะลัก ลำคอถูกปาดเป็นแผลลึกเกือบถึงหลอดลม
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตนอนจมเลือดอยู่หลังเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับ ทราบชื่อนางเสาวจี เล็กเขียน อายุ 51 ปี เจ้าของเกสต์เฮาส์ที่เกิดเหตุ สภาพสวมเสื้อสีชมพู นุ่งกระโปรงยีนส์สั้น นอนตะแคงข้างเลือดทะลักถูกแทงด้วยมีดที่ลำคอ และถูกฟันศีรษะหลายแผล นำศพส่ง รพ.เมืองพัทยา ให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียด
นายกบ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี คนขี่รถ จยย.รับจ้างใกล้จุดเกิดเหตุ และเป็นพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยระงับเหตุคนแรกเล่าให้ตำรวจฟังว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องดังลั่น ตอนแรกนึกว่ามีคนถูกหวยลาว-หวยฮานอย วิ่งมาดูเห็นคนร้ายกำลังใช้มีดฟันผู้ตายอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะใช้มีดปาดคอและแทงท้องตัวเองไม่ยั้ง รีบตะโกนเรียกให้คนช่วย และพยายามเข้าไปห้าม แต่คนร้ายใช้มีดกวัดแกว่งไม่ให้เข้าใกล้ และยังพยายามคลานไปฟันคนตายซ้ำ กระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงได้เข้าไปดึงขาคนร้ายลากไปหน้าร้านเพื่อควบคุมตัว
ต่อมานายประกรต เล็กเขียน อายุ 58 ปี สามีผู้ตาย เดินทางมาดูสถานที่เกิดเหตุและยังอยู่ในอาการช็อก ไม่พูดไม่จาหรือให้ข้อมูลใดๆ ตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า นายประกรต เป็นสามีที่จดทะเบียนสมรสกับผู้ตายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อยู่กินกับผู้ตายมานานกว่า 20 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ชาย 1 คน หญิง 1 คน ส่วนปมสาเหตุไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร
พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ตำรวจสันนิษฐานว่าปมสังหารน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว หรือปัญหารักสามเส้า ตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า เมื่อเดือนมีนาคมผู้ตายเดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ว่าถูกผู้ก่อเหตุโทรศัพท์มาข่มขู่ เกรงว่าจะได้อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้เชื่อว่าทั้งคู่อาจเคยมีปัญหาอะไรกันก่อนหน้านี้ ตำรวจจะเร่งสอบปากคำพยาน และคนใกล้ชิด รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริง สำหรับอาการของนายสุนทร ผู้ก่อเหตุเข้าขั้นโคม่าเป็นตายเท่ากัน และอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
นายประกรต เล็กเขียน สามีของนางเสาวจี หรือสาว เล็กเขียน ผู้ตายเล่าว่า ส่วนตัวไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุ แต่เคยได้คุยผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เนื่องจากเมื่อ 3 เดือนก่อน นายสุนทร หรือเเบน พอใจ ผู้ก่อเหตุ เคยส่งข้อความมาหาตน พยายามแสดงความเป็นเจ้าของว่าเสื้อผ้าชุดออกกำลังกายที่ภรรยาตนใส่ เป็นชุดที่ผู้ก่อเหตุซื้อให้ ทำให้ตนมีปากเสียงกับภรรยา แต่เรื่องจบไปแล้ว เพราะภรรยาบอกว่าจะเลิกยุ่งกับเทรนเนอร์รายนี้แล้ว กระทั่งเมื่อ 2 เดือนก่อน ภรรยามาขอหย่ากับตน อ้างว่าต้องการอิสระ แต่ตนไม่ยอมหย่าให้ และขอร้องให้ภรรยานึกถึงลูก ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้า ตนเข้ามากินกาแฟที่ร้านก่อนออกไปทำธุระข้างนอก ต่อมาแม่บ้านโทร.มาบอกว่าภรรยาถูกแทง รีบกลับมาดูพบภรรยาเสียชีวิตแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายสุนทร เทรนเนอร์ฟิตเนสที่เคยมีเรื่องกันทางไลน์ก่อนหน้านี้ ทำให้เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้น มาจากเรื่องหึงหวงอย่างแน่นอน ยอมรับว่าเสียใจกับการจากไปของภรรยา ส่วนผู้ก่อเหตุขอให้เป็นไปตามเวรตามกรรม
สำหรับนายสุนทร พอใจ มีฉายาในวงการว่า “เปาเเบน” ปัจจุบันเป็นเทรนเนอร์สอนออกกำลังกายตามฟิตเนส อดีตเคยเป็นกรรมการตัดสินฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก และยังเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย อาการล่าสุดยังโคม่า เนื่องจากบาดแผลสาหัสมาก ถูกย้ายตัวไปรักษาต่อที่ รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ทีมแพทย์นำตัวเข้าห้องผ่าตัด และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด