ตำรวจทางหลวงร่วมศุลการกรสกัดจับซากเนื้อโค-กระบือเถื่อนเกือบ 30,000 กิโลกรัม

ตำรวจทางหลวงร่วมศุลการกรสกัดจับซากเนื้อโค-กระบือเถื่อนเกือบ 30,000 กิโลกรัม มาจากอินเดียลอบนำเข้าล๊อตใหญ่ ผ่านทางจากลาว เตรียมส่งขาย กทม. ก่อนกระจายสู่ผู้บริโภค

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมสนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรมุกดาหาร และ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์มหาสารคาม

ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย นายฐติฯ หรือเอก อายุ 38 ปีซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน

1. ใช้เอกสารราชการปลอม

2. ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของที่ตนรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 นำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดภาษีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากรอันเป็นความผิดตาม 1 มาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร 2560

3.นำซากสัตว์ (เนื้อกระบือถอดกระดูกแช่แข็ง) เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้อนุญาต ม.31 พ.ร.บ.โรคระบาด

4. เคลื่อนย้ายซากสัตว์ (เนื้อกระบือถอดกระดูกแช่แข็ง) ข้ามจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต ม.34 พ.ร.บ.โรคระบาด

จับกุม บริเวณหลักกิโลเมตรที่ ทล.23 กม.50-51 ต.บรบือ อ.บรบือ จว.มหาสารคาม

ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมขบวนการ ลักลอบนำเข้าซากสัตว์เถื่อนเข้ามาประเทศโดยผิดกฎหมายในพื้นที่เขตรับผิดชอบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะเเสว่าจะมีการลำเลียงขนซากสัตว์ล็อตใหญ่จากนอกราชอาณาจักรเข้ามาทางพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่งเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ โดยอาศัยในช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 2–5 มิ.ย.2566

โดยจากข้อมูลตำหนิรูปพรรณรถยนต์และกลุ่มผู้ต้องสงสัยทำให้ทราบว่าขบวนการดังกล่าว จะใช้รถบรรทุกกึ่งพ่วงลำเลียงขนส่งซากสัตว์เมื่อทราบข้อมูลเบาะเเสดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาให้ทราบ และมีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังรถยนต์และกลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าว

กระทั่งเมื่อวันที่ 2 มิ.ย..2566 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบรถยนต์ ต้องสงสัยตามที่ได้รับเเจ้งบนถนนหมายเลข 213 มุ่งหน้าบรบือ จังหวัดมหาสารคาม จึงได้การวางกำลังทำการสกัดจับ

เมื่อรถขับผ่านจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้หยุดรถ และขอทำการตรวจสอบรถ จากการตรวจสอบพบซากสัตว์จำนวนมากบรรทุกอยู่ภายในตู้เต็มตู้พ่วงคอนเทนเนอร์

ซึ่งนายเอกฯ ให้ถ้อยคำว่าตนขับรถจะนำสินค้าดังกล่าวไปส่งยังบริเวณพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์มหาสารคามเข้าร่วมตรวจสอบ ผลการตรวจสอบซากสัตว์

เบื้องต้นพบว่าเป็นเนื้อกระบือถอดกระดูกแช่แช็ง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเนื้อกระบือถอดกระดูกแช่แข็งดังกล่าวพบแหล่งผลิต แหล่งที่มา มาจากประเทศอินเดีย จึงนำรถพร้อมเนื้อกระบือถอดกระดูกแช่แข็งไปตรวจสอบน้ำหนัก พบเนื้อกระบือถอดกระดูกแช่แข็งดังกล่าวน้ำหนักประมาณ 29,000 กิโลกรัม

จากการสอบถามนายเอกฯ ให้การว่าตนเป็นลูกน้องของบริษัทขนส่งเจ้าของรถคันนี้ ซึ่งบริษัทเจ้าของรถอยู่ที่แหลมฉบัง ได้ค่าจ้างครั้งละ 3,500 บาท ค่าจ้างให้หลังจากเสร็จงานและเงินมีเดือนต่างหาก โดยการมารับสินค้าในครั้งนี้ตนขับรถเปล่าไม่มีสินค้าบรรทุก โดยขับมาจากแหลมฉบังแล้วมาจอดทิ้งพ่วงไว้บริเวณใกล้ด่านมุกดาหาร เมื่อวันที่ 30 พ.ค.66 เวลาประมาณ 20.00 น. แล้วไปหาที่พักรอรับพ่วงพร้อมสินค้าในวันที่ 2 มิ.ย.66 โดยเมื่อถึงเวลารับสินค้าจะได้รับแจ้งจากผู้ขายให้ไปรับพ่วงพร้อมสินค้า

โดยจะมาจอดทิ้งพ่วงพร้อมสินค้าไว้ให้บริเวณจุดนัดรับ ซึ่งจุดรับสินค้าในครั้งนี้ตนมารับครั้งแรกผู้ขายให้ไปรับพ่วงบริเวณแยกไฟแดงใกล้ๆ กับด่านมุกดาหาร

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยืนยันลุยเดินหน้าเดินหน้าดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด กับผู้ลักลอบกระทำผิด เนื่องจากโรคต่างถิ่นที่อาจกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์ของไทย ซึ่งอาจเป็นปัญหาต่อประชาชนในประเทศ รวมทั้งหวั่นเกรงต่อสารเร่งเนื้อแดงที่อาจปนเปื้อนมากับเนื้อสัตว์ต่างแดนที่ลักลอบนำเข้ามาที่จะส่งผลอย่างยิ่งต่อสุขภาพคนไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง