เชียงรายสำลักควันพิษ!ไฟป่าบนดอยช้างลามหนัก ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งระดมทุกภาคส่วนแก้ปัญหา PM 2.5

เชียงราย-ไฟป่าบนดอยช้างลามหนัก ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งการระดมทุกภาคส่วนเร่งแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ด้านเจ้าหน้าที่ไฟป่าต้องร่วมกับอาสาสมัครและชาวบ้าน เข้าดับไฟอย่างต่อเนื่อง

นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 15 (เชียงราย) ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้พื้นที่ดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย จึงไปตรวจสอบพบเกิดเพลิงไหม้อย่างหนักบริเวณพื้นที่จุดชมวิวและสุสานบนดอยช้าง พื้นที่ ต.วาวี อ.แม่สรวย โดยไฟได้โหมลุกไหม้พื้นที่ป่าที่มีพงหญ้าแห้งอย่างหนัก และลุกลามไปอย่างรวดเร็วจนเกือบถึงถนนที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังกันเข้าไปดับไฟอย่างหนักเนื่องจากเป็นป่าเขาสูงชัน

ทั้งนี้ นายชุติเดช และคณะ ได้มอบอุปกรณ์หน้ากากอนามัย น้ำดื่ม ฯลฯ ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อให้เข้าปฏิบัติดับไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเข้าดับไฟตลอดทั้งวัน กระทั่งช่วงเย็นวันเดียวกันนี้จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้แล้ว

นายชุติเดช กล่าวว่า ไฟป่าบนดอยช้างเกิดขึ้นตั้งแต่คืนวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเกิดขึ้นเป็นวงกว้างและลุกไหม้อย่างหนัก แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง และเมื่อดับไฟครั้งแรกแล้วเกิดการคุกรุ่นขึ้นมาอีก ทำให้เจ้าหน้าที่ไฟป่าต้องร่วมกับอาสาสมัครและชาวบ้านเข้าดับไฟอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จึงขอให้ประชาชนได้งดการเผาเพื่อป้องกันการลุกลาม รวมทั้งหากพบการลุกไหม้ของไฟจุดใด ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีด้วย

ด้านนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางไปประชุมที่ว่าการ อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควัน พร้อมระบุว่ากรณีมีการขอให้ทางจังหวัดได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการเผาพื้นที่ทางการเกษตรนั้น คงต้องนำเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อดำเนินการ เพราะถือเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้ว่าระดับจังหวัดจะมีความสัมพันธ์ต่อกัน แต่สภาพของปัญหาเกิดขึ้นในวงกว้าง และประเทศเพื่อนบ้านก็มีความหลากหลายของกลุ่มที่อาศัยอยู่ในเขตนั้นๆ

ส่วนข้อเสนอให้ทางจังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติจากภาวะฝุ่นละอองครั้งนี้นั้นต้องคำนึงถึงผลกระทบที่อาจตามมาหลายด้าน โดยมีตัวอย่างการประกาศช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา ขณะที่ปัญหามาจากนอกประเทศ ซึ่งเราควบคุมไม่ได้ด้วย ดังนั้นจึงจะแก้ไขปัญหาภายในให้ได้ดีที่สุดก่อน ส่วนสถานการณ์ภายนอกประเทศไม่สามารถควบคุมได้ โดยในครั้งนี้ก็จะรับฟังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อปรับและเพิ่มเติมการทำงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง