เมียผู้กองไม่ทน!บุกเข้าพบ ผบช.ภ.4 ขออุทธรณ์คำสั่งย้ายสามีไม่เป็นธรรมทำพ่อ-แม่-ลูกต้องแยกกันอยู่

ขอนแก่น-เมียผู้กองไม่ทน บุกเข้าพบ ผบช.ภ.4 ขออุทธรณ์คำสั่งย้ายสามี จนต้องการเกิดแบ่งแยก พ่อ-แม่-ลูก ไปคนละทางเชื่อถูกย้ายไม่เป็นธรรมจากผู้มีอำนาจที่สูงกว่า ด้าน บช.ภ.4 เผย หากต้องการอยู่ต่อ ก็สามารถขอช่วยราชการได้

นางสุกฤตา เชื้อพรมมา ภรรยาของ ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ จันทร์แปลง รอง สว.ฯ(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมชาวบ้าน 20 คน เข้ายื่นหนังสือ ร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ที่ห้องรับเรื่องร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 อ.เมือง จ.ขอนแก่นเพื่อ พิจารณาอุทธรณ์ถอนชื่อ ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ ออกจากคำสั่งย้าย ตร.ที่ 315/2566 โดยมี พล.ต.ต.กีรติพนธ์ สุวรรณะพิชญา ผบก.อก.บช.ภ. 4 เดินทางมาพบกับภรรยาของนายตำรวจรายดังกล่าว พร้อมรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมอุทธรณ์ถอนชื่อ ออกจากคำสั่งย้าย โดยมี พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รองผกก.(สอบสวน)สภ. เมืองขอนแก่น ร่วมรับฟังด้วย

นางสุกฤตา เชื้อพรมมา กล่าวว่า การมาร้องขอความเป็นธรรมและขอถอนชื่อสามีออกจากคำสั่งย้าย เพราะ มีบ้านเกิดและที่อยู่ปัจจุบัน ที่บ้านเลขที่ 89/4หมู่ 6 ถ.โพธิสาร บ้านโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งสามีสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา เป็นผู้เชี่ยวขาญด้านคอมพิวเตอร์ ในสำนวนอาญา ให้กับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ทำงานด้วยความเข็มแข็งขยันทำงานมาโดยตลอด ข้อบกพร่องไม่มี ไม่เคยถูกตั้งกรรมการสอบวินัยแต่อย่างใด แต่คำสั่งย้ายดังกล่าว ทำให้ ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ และครอบครัวได้รับความเดือดร้อน และเสียหาย โดยการย้ายครั้งนี้ ผู้ถูกย้ายโดยไม่ได้เขียนคำร้อง ไม่ได้ทำเรื่องร้องขอย้ายแต่อย่างใด ทำให้ เพื่อนๆ ตำรวจในที่ทำงานและชาวบ้านใกล้เรือนเคียง ผู้ทราบเรื่องการย้าย เกิดความคิดว่า เป็นการถูกย้ายเพราะได้กระทำความผิดอะไรสักอย่าง ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ต่อตัวผู้ถูกย้าย และต่อครอบครัววงศ์ตระกูล ได้รับความเดือดร้อน

“เงินที่ใช้จ่ายของครอบครัว ได้กลายเป็นค่าเดินทางไปกลับในการไปปฏิบัติงานที่ จ.สกลนคร รวมทั้งคำซื้อวัสดุอุปกรณ์การทำงานต่างๆ ทำให้ภาวะการเงินของครอบครัวเดือดร้อนมาก ทำให้ครอบครัวเกิดการแบ่งแยก ขาดเสาหลักของครอบครัว ทุกวันนี้ต้องแยกกันอยู่ ระหว่างสามี ภรรยา ขาดความอบอุ่นจากเสาหลักของบ้าน พ่อไปทาง แม่ไปทาง ลูกๆ และบิดา มารดาที่อายุมากแล้ว ขาดคนดูแล ซึ่ง ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ เป็นผู้เดียวในครอบครัวที่ทำงานรับราชการ เละเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นผู้ดูแลหลักของครอบครัว ทำให้ผู้ถูกย้ายและคนในครอบครัว เกิดขวัญเสีย รู้สึกเศร้าใจ จากการถูกย้ายในครั้งนี้ โดยไม่มีสาเหตุ ไม่รู้เรื่องใดๆ มาก่อน คล้ายถูกรังแก จากอิทธิพลมืด ซึ่งเป็นการย้ายโดยไม่มีความเหมาะสม”

นางสุกฤตา กล่าวต่อว่า ในการย้ายมีคครั้งนี้ น่าจะเกิดจากผู้มีอิทธิพลระดับสูงในคคีอาญาที่สามีทำสำนวนคคีอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ ในคดีการฉ้อโกงเอาที่ดินของขาวบ้านต.บ้านเป็ด อเมือง จ.ขอนแก่น จำนวน 10 คดี และ คดีการแจ้งความเท็จเพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษ หรือคดีอื่นๆ เนื่องจากสามีเป็นคนตรงๆ ทำงานด้วยความเข้มแข็ง ไม่หวั่นไหวต่อผู้มีอิทธิพลต่างๆ ซึ่งขณะนี้หลายเรื่องอยู่ในขั้นพิจารณาของอัยการ ซึ่งการย้ายอกจากพื้นที่ครั้งนี้ น่าจะทำให้เกิดอุปสรรคต่อการคำเนินคดีในชั้นศาลของเจ้าของคดีได้

“ดิฉันในฐานะภรรยาและชาวบ้านผู้เดือดร้อนทั้งหลาย จึงมาพบท่านยรรยง และขอยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมอุทธรณ์คำสั่งย้ายดังกล่าว เพื่อขอให้พิจารณาอุทธรณ์คำสั่งให้ถอนชื่อ ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ จันทร์แปลงออกจากคำสั่งย้ายดังกล่าว เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับสามี ผู้ถูกย้ายโดยที่ไม่ได้เขียนคำร้องขอ โดยไม่อยู่ระหว่างถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยหรือทางอาญาใดๆ สร้างความเดือดร้อนต่อ ผู้ถูกย้ายและครอบครัว ได้รับความเดือดร้อน เสียหายต่อซึ่งเสียวงศ์ตระกูล เสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเพิ่มขึ้น อันเป็นคำสั่งย้ายโดยขาดความเหมาะสม และในระหว่างที่รอการพิจารณาเพิกถอนชื่อออกจากคำสั่ง ขอให้ ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ มาปฏิบัติราชการที่ สภ.เมืองขอนแก่น ดังเดิมจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง”

โดยหลังจากที่พบปะพูดคุยในรายละเอียดของการที่ต้องยื่นอุทธรณ์ชื่อ ออกจากคำสั่งย้ายจากภรรยาของนายตำรวจรายดังกล่าว และชาวบ้านที่ร่วมเดินทางมาในครั้งนี้แล้ว

พล.ต.ต.กีรติพนธ์ สุวรรณะพิชญา ผบก.ภ. 4 กล่าวว่า จากการพูดคุยกับชาวบ้านที่ร่วมเดินทางมากับภรรยาของนายตำรวจรายดังกล่าว ทราบว่า เป็นผู้เสียหายในคดีที่ถูกฉ้อโกงเอาที่ดินไป มีความเสียหาย กับประชาชนหลายราย จึงเข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ และมีการสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง หากตำรวจรายดังกล่าวย้ายไป ชาวบ้านเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า คนทำผิดอาจจะพ้นผิดก็ได้ จึงได้ทำความเข้าใจว่า คดีนั้น แม้พนักงานสอบสวนย้ายไป แต่การทำคดียังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมี พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รองผกก.(สอบสวน)สภ. เมืองขอนแก่น ควบคุมดูแลการสอบสวน ชาวบ้านไม่ต้องกังวลใจในเรื่องคดี ยืนยันว่าจะทำการสืบสวนสอบสวนให้เกิดความเป็นธรรมกับชาวบ้านทุกราย

“การร้องขอความเป็นธรรมและให้ถอนชื่อสามีตัวเองออกจากคำสั่งย้าย เนื่องจากการโยกย้ายครั้งนี้ สามีถูกย้ายแบบไม่รู้ตัว จึงเป็นการไม่มีความเป็นธรรมต่อสามีและครอบครัว ซึ่งจะนำเรียนต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป แต่ในขณะเดียวกันเมื่อย้ายไปแล้ว หากต้องการทำงานอยู่ที่สภ.เมืองขอนแก่น ก็สามารถยื่นทำเรื่องขอช่วยราชการได้”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง