“ชูวิทย์”แฉแหลกทุนจีนสีเทา”ตู้ห่าว”ยังอยู่ประเทศไทย แอบซุกปีกผู้มีอิทธิพล

“ชูวิทย์” แฉผู้มีอิทธิพลไทยแอบซ่อน “ตู้ห่าว” มาเฟียจีนสีเทา หลังหายตัวเงียบ วอนตำรวจเร่งติดตามตัว สอบเส้นทางการเงิน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ที่บ้านไทยโรงแรมเดอะเดวิส สุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดหลักฐานเกี่ยวกับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของ “ตู้ห่าว” นายทุนจีนสีเทา พร้อมเปิดเส้นทางการบินแบบผิดปกติของนายตู้ห่าว

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ปัจจุปัน นายตู้ห่าว หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และยังไม่มีการถูกออกหมายจับ หรือจับกุมมาดำเนินคดีแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่เป็นตัวการใหญ่ที่สุดในกลุ่มนายทุนจีนสีเทา จากข้อมูลของตนเองเชื่อว่านายตู้ห่าว ยังคงอยู่ในประเทศไทย โดยกบดานอยู่กับผู้มีอิทธิพลชาวไทยรายหนึ่ง เนื่องจากนายตู้ห่าวเป็นมาเฟียที่มีทรัพย์สินหลายพันล้าน และกุมความลับของผู้มีอิทธิพลนักการเมืองจำนวนมากที่นำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริตนำมาให้นายตู้ห่าวฟอกเงินโดยการลงทุนในธุรกิจผิดกฎหมาย หากนายตู้ห่าวถูกจับกุม ข้อมูลดังกล่าวก็อาจจะถูกเปิดเผย และส่งผลกับผู้ที่มีส่วนได้เสียในครั้งนี้ ส่วนหลานชายของนายตู้ห่าว อายุ 21 ปี มีข้อมูลว่าได้หลบหนีไปแล้ว

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า จากเบาะแสเกี่ยวกับเครื่องบินเจ็ตของนายตู้ห่าว พบว่าเครื่องบินเจ็ตลำดังกล่าวจอดอยู่ที่ Sunny604 หรือฝูงบินเศรษฐี ซึ่งถือเป็นพื้นที่หวงห้าม จะต้องได้รับอนุญาต อยู่ที่ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน แต่กลับจอดได้โดยไม่มีใบอนุญาต PPL จนกระทั่งวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าคนขับเครื่องบินอักษรย่อ ต.เต่า ได้นำเครื่องบินไปจอดที่หัวหินและภูเก็ต โดยอ้างว่านำไปซ่อมบำรุงเพื่อไม่ให้ถูกตรวจสอบว่าใครเป็นคนอนุญาตให้จอดไว้ที่เขตหวงห้ามดังกล่าว

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายตู้ห่าวบางส่วน เช่น รถโรลส์-รอยซ์ และอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่งรวมหลายพันล้าน ซึ่งใช้ชื่อนอมินีที่เป็นญาติของนายตู้ห่าวมาเป็นเจ้าของ โดยตนเองเคยมอบให้กับนายตำรวจระดังสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เรื่องก็เงียบ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคนที่มีอำนาจและอิทธิพล จึงต้องการแถลงเปิดโปงข้อมูลเพื่อเร่งรัดไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

หากตำรวจยังล่าช้า ทรัพย์สินต่างๆ เหล่านี้อาจถูกยักย้ายถ่ายเทไปที่อื่นได้ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ ดังนั้นในสัปดาห์หน้าจะนำบัญชีธนาคาร เส้นทางการเงิน และรายชื่อนอมินีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาเปิดเผย และสัปดาห์หน้าถัดไปก็จะไปยื่นหลักฐานต่อ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง