เอกชนใต้ซัดรัฐบาลเมินด่านนอกแหล่งการค้า เศรษฐกิจ รายใหญ่ชายแดนไทย-มาเลเซีย

สงขลา-นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่สงขลาชี้แหล่งธุรกิจชายแดนไทย-มาเลเซีย “ด่านนอกโซนนิ่งเอนเทอร์เทน” เป็นแหล่งเงินจากต่างประเทศ 100 เปอร์เซ็นต์

ดร.สิทธิพงศ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่สงขลา เปิดเผยว่า ด่านนอก เทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา รอยต่อกับรัฐเคดาห์ มาเลเซีย เป็นที่ตั้งแหล่งการค้า เศรษฐกิจธุรกิจการท่องเที่ยวชายแดนไทย มาเลเซีย ขนาดใหญ่ แต่ทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยว จ.สงขลา กลับไม่ได้ทำการผลักดันจากรัฐบาลอย่างจริงจังทั้งที่ธุรกิจการท่องเที่ยวการค้าเป็นเศรษฐกิจที่สำคัญ ต่างกับการผลักดันยุทธศาสตร์โลจิสติกส์

“ในส่วนบริบทการท่องเที่ยวด่านนอกรอยต่อกับรัฐเคดาห์ มาเลเซีย แทบจะไม่ได้รับการสนับสนุนส่งเสริม ซึ่งรัฐควรสนับสนุนส่งเสริม เช่น จัดโซนนิ่งเอนเตอร์เทน เที่ยวกิน นอน ในพื้นที่ 2 กิโลเมตร และสนับสนุนการเปิดแหล่งบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ที่จะสามารถทำได้เพราะพื้นที่เหมาะสมปลอดจากพื้นที่ชุมชน เยาวชน สถานการณ์ศึกษา สถานพยาบาล ฯลฯ”

ดร.สิทธิพงศ์ กล่าวอีกว่า ด่านนอก จะมีแต่นักท่องเที่ยวจากต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งควรสนับสนุนให้ภาคเอกชนหาเงินจากต่างประเทศจากธุรกิจการท่องเที่ยวซึ่งสอดรับกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และสอดรับกับรัฐบาลที่วางยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของไทยเป็นเศรษฐกิจตัวหลักในขณะนี้จะหาเงินเข้าประเทศได้

และนโยบายนี้ก็ได้หารือกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แล้ว แต่ทาง ศอ.บต.ระบุว่า จะดำเนินการนำร่องพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนและถัดไปจะตามด้วยด่านนอก

“ถ้าโซนนิ่งเอนเทอร์เทนเม้นท์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ก็ต้องเริ่มพร้อมกันกับด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขามด้วย เพราะเมื่อทำไม่พร้อมกันเมื่อโซนนิ่งหาดใหญ่ทำก่อนแต่หากไม่ผ่าน ก็จะส่งกระทบต่อโซนนิ่งด่านนอกจะไม่ผ่านด้วย แต่หากทำพร้อมกันเชื่อว่าโซนนิ่งด่านนอกจะผ่าน เพราะเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และพื้นที่ก็ไม่กระทบกับสังคม”

ดร.สิทธิพงศ์ กล่าวว่า เป็นการค้าขายกับคนต่างชาติ มีทั้งชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฯลฯ สำหรับชาวมาเลเซียมีกำลังซื้อไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท / วัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง