ทักษิณ สะท้อน 16 ปีรัฐประหาร”วันถูกยึดอำนาจ”10 สิ่งสูญเสีย เย้ยทหารเป็นได้แค่ยาม ไม่ใช่ซีอีโอ

“ทักษิณ” อดีตนายกรัฐมนตรี สะท้อน 16 ปี รัฐประหาร 19 ก.ย.49 เผย 10 สิ่งที่สูญเสีย ชี้ชัดมีแต่ความเลวร้าย เย้ยทหารเป็นได้แค่ยาม ไม่ใช่ซีอีโอ ย้ำไม่นานได้กลับบ้าน

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.65 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Thaksin Shinawatra ถึงการรัฐประการ เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2549 ความว่า ครบรอบ 16 ปีของการรัฐประหาร

19 กันยายน 2549 ขณะที่ผมเดินทางไปประชุมสหประชาชาติ ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐฯ ผมถูกการรัฐประหารลับหลัง (ถูกลอบกัดโดยชายชาติทหาร) ผมเสียดายสิ่งดีๆ ที่ควรจะเกิดแต่วันนี้กลายเป็นความเลวร้าย

1.ผมเสียดายความเป็นประชาธิปไตยของประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แต่วันนี้เรากลับต้องมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจเผด็จการ 2.ผมเสียดายความสง่างามและความไว้เนื้อเชื่อใจของประเทศไทยบนเวทีโลก

3.ผมเสียดายโอกาสประเทศในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา เทคโนโลยี การเกษตรและอุตสาหกรรม 4.ผมเสียดายโอกาสในการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งคนไทยควรจะหายจนไปแล้ว

5.ผมเสียดายโอกาสของคนไทยที่ทุกวันนี้มองไม่เห็นอนาคตตนเอง เพียงแค่หางานทำให้ได้เพื่ออยู่ไปวันๆ ทั้งๆ ที่รายได้ต่ำกว่าประเทศอื่นในระดับการพัฒนาเดียวกัน

นายทักษิณ ระบุว่า 6.ผมเสียดายความเป็นศูนย์กลางการบินของสุวรรณภูมิ ทั้งๆที่ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เราควรจะเป็นศูนย์กลางของอาเซียน 7.ผมเสียดายที่ลูกหลานต้องติดยาเสพติด ซึ่งตอนนี้ซื้อง่ายยิ่งกว่าหมากฝรั่ง

8.ผมเสียดายที่น้ำท่วมซ้ำซากเพราะไม่ได้บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ 9.ผมเสียดายระบบราชการที่กำลังทันสมัย ต้องกลับมาเป็นรัฐราชการที่ประชาชนต้องวิ่งวอนขอรับการบริการ 10.ผมเสียดายที่ประเทศต้องเป็นหนี้เพิ่มจากการบริหารงานที่ผิดพลาด จนต้องขยายเพดานการกู้และหนี้สินภาคครัวเรือนของประชาชนสูงจนจะใช้คืนได้ยาก

“ผมบอกแล้วว่าทหารเหมือนหัวหน้ายามที่ใช้เฝ้าทรัพย์สิน ดูแลความปลอดภัย ไม่ใช่มาเป็น CEO หรือมาบริหารประเทศ เพราะเป็นแต่ใช้ตังค์ แต่หาตังค์ไม่เป็น ขอให้พี่น้องคนไทยช่วยกันสนับสนุนประชาธิปไตยอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ เพื่อประเทศไทยของเราและลูกหลานจะได้มองเห็นอนาคตและเลือกทางเดินชีวิตของตนเองได้

สำหรับส่วนตัวของผมเอง 73 ปีแล้ว ก็ยังอดห่วงอนาคตประเทศและลูกหลาน ไม่นานคงจะได้กลับไปเลี้ยงหลานและแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับสังคมไทย เท่าที่กำลังกายและกำลังสมองยังดีอยู่ ด้วยเคารพรักและห่วงใย” นายทักษิณ ระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง