จับตาสภาม.รามฯประชุมถี่-ชี้เปลืองบฯ จี้เร่งตรวจสอบ

จับตาสภาฯราม เรียกประชุมถี่ อุปนายกสภาฯ แจง ประชุมเดือนละครั้ง แต่บางครั้งมีคนจะจบการศึกษา ก็มีความจำเป็นต้องมาประชุม ด้าน ดร.ปรมต แย้ง ชี้เดือนกรกฎาคม 2565 เรียกประชุมถึง 4 ครั้ง คาดต้องใช้งบฯครั้งละประมาณ 120,000 บาท ตั้งข้อสงสัยหวังเร่งหาเหตุจะถอดถอนอธิการบดีเป็นครั้งที่ 2 หรือไม่?? พร้อมเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบว่าเป็นไปตามบทบาทหน้าที่ของสภาฯหรือไม่

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าว รายงานจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงว่า จากกรณีที่สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มีมติถอดถอนอธิการบดี ไปครั้งแรก และศาลได้มีการคุ้มครองให้อธิการบดีกลับมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิมนั้น

ล่าสุดมีกระแสข่าวมาว่า สภาได้มีการเรียกประชุมสภาฯ ถี่ขึ้นจนเป็นที่น่าสังเกตว่ามีเจตนาพิเศษจะหาเหตุพยายามที่จะถอดถอนอธิการบดี เป็นครั้งที่ 2 หรือไม่?

ในประเด็นนี้ ศ.ดร. สมบูรณ์ สุขสำราญ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้สัมภาษณ์ว่า ประชุมบ่อยเดือนละครั้ง บางครั้งคนจะจบการศึกษา ก็ต้องรีบใช่ไหม คณะเขาจะเปลี่ยนวิชา ก็ต้องประชุมสภามหาวิทยาลัย แล้วคุณจะอยู่เฉยๆ ได้หรือมหาวิทยาลัย ก็ต้องแอคทีฟตลอดเวลา เขาก็ต้องผ่านสภามหาวิทยาลัย เชื่อเถอะไม่มีใครอยากมาเสียเวลา มันจำเป็นต้องมาประชุม

แต่ ดร.ปรมต วรรณบวร ผู้ช่วยอธิการบดีฯ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวแย้งในประเด็นนี้ว่า การเรียกประชุมสภาฯ ในช่วงนี้ แตกต่างจากเมื่อก่อน ที่ปกติประชุมเดือนละหนึ่งครั้ง ล่าสุด ในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ มีการเรียกประชุมถึง 4 ครั้ง คือ วันที่ 1, 7, 19 และนัดอีกที 25 นี้ ในการเรียกประชุมเป็นพิเศษแต่ละครั้ง ถ้าไม่มีเหตุอันควรจริงๆ หรือ มีเรื่องพิจารณาแค่ 1 หรือ 2 วาระ ก็อาจทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณในการจ่ายเบี้ยประชุม เพราะต้องจ่ายเบี้ยประชุมให้กรรมการ รวมแล้วประมาณ 120,000 บาทต่อครั้ง สามารถตรวจสอบได้ เพราะผมไม่ชอบให้ข่าวที่บิดเบือน อีกทั้ง เป็นที่น่าสังเกตว่า ในแต่ละครั้งที่เรียกประชุมส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตั้งสอบอธิการบดี ที่มีเหตุจากการร้องเรียนจากผู้ร้องที่ไม่มีตัวตน

“โดยล่าสุดเมื่อการประชุม วันที่ 19 ก.ค. จริงหรือไม่ ที่มีเรื่องพิจารณาแค่ 2 เรื่อง คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจะเอาผิด อธิการบดีกับอีกเรื่องคืออนุมัติปริญญาฯ ให้นักศึกษา แค่ 1 คน ส่วนที่จะนัดประชุมวันที่ 25 ก.ค. ก็ได้ข่าวว่า ก็จะมีเพียงเรื่องเดียว คือเรื่องที่มีการเสนอเรื่องเข้ามา ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจะเอาผิดอธิการบดี อีกหรือไม่ เพราะเรื่องเก่าๆ ส่วนใหญ่ เมื่อตรวจสอบแล้วไม่สามารถเอาผิดอธิการบดี ได้ ในขณะที่ ผู้บริหารที่เป็นกรรมการสภาฯ ได้เสนอขอให้สภาฯ เลื่อนการประชุมในวันที่ 25 ก.ค. 65 ออกไป เนื่องจากในวันดังกล่าว ผู้บริหารที่เป็นกรรมการสภาฯ มีภารกิจต้องสอบพนักงานงบคลัง ซึ่งได้กำหนดตารางปฏิทินไว้เรียบร้อยแล้วและต้องดำเนินการให้ทันปีงบประมาณ แต่สภาฯ ก็ไม่ยอมเลื่อน”
ดร.ปรมต กล่าวอีกว่า การประชุม 3 ครั้งล่าสุด เป็นที่น่าสังเกตว่าอธิการบดี ไม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุม เนื่องจากได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติภารกิจจากอุปนายกสภาฯ ครั้งแรกให้ไปเกี่ยวกับเรื่อง U2T ของ อว. ครั้งที่ 2 ให้ไปเข้ารับการฝึกอบรมกฎหมายมหาชนสำหรับผู้บริหารมหาวิทยาลัย และครั้งล่าสุดอธิการบดี ติดโควิด

ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้จากรายงานการประชุมในแต่ละครั้ง ที่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบด้วยว่า การดำเนินการประชุมลักษณะนี้ เป็นไปตามบทบาทหน้าที่ของสภาฯหรือไม่ โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีเจตนาพิเศษจะหาเหตุพยายามที่จะถอดถอนอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 หรือไม่ ถ้าเป็นจริงทำไมถึงไม่คำนึงถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นตามมากับมหาวิทยาลัย
ในขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวว่าได้มีเรื่องร้องเรียนนายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ มาหลายเรื่อง แต่ละเรื่อง ผู้ร้องจะมีตัวตน ระบุชัดเจน แต่เรื่องกลับล่าช้า เช่น มีการร้องเรียนตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานกรรมการส่งเสริมฯ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 แต่ก็ยังไม่ทราบความคืบหน้าหรือชี้แจงต่อผู้ร้อง และยังมีการร้องเรียนจากนักศึกษา เรื่อง เกี่ยวกับการแต่งตั้ง ผอ. บัณฑิตศึกษานิติศาสตร์ ซึงเป็นภรรยาของกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่งในสภาฯ แล้วเอาสามี ลูก เข้ามาสอน ส่อเป็นผลประโยชน์ของครอบครัว ??

ข่าวที่เกี่ยวข้อง