รวบหนุ่มวินจยย.ทาสยาจี้ชิงทรัพย์นักเรียนโรงเรียนหอวัง

ตำรวจตามจับกุมขับวิน จยย.รับจ้างวัย 48 ปี หลังก่อเหตุชิงทรัพย์นักเรียนโรงเรียนหอวัง สารภาพเสพยา ก่อนลงมือก่อเหตุ ตรวจสอบเคยมีประวัติค้ายาเสพติดปี 45 ตำรวจคุมตัวฝากขัง ปรากฏว่าไม่มีญาติมาประกันตัว ทำให้ถูกส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

จากกรณีคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์นักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนหอวัง ได้เงินสดไป 100 บาท เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.กก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.ธเนศ ศรีจำปา รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธิน พร้อมตำรวจ สน.พหลโยธิน ร่วมกันจับกุมนายชยันต์ ปาลพันธุ์ อายุ 48 ปี ข้อหาชิงทรัพย์ โดยจับกุมได้บริเวณปากซอยอินทามระ 29 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

จากการสอบนายชยันต์ ให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง แต่ไม่มีอาวุธปืนตามที่เสนอข่าวแต่อย่างใด เพียงแต่การข่มขู่ผู้เสียหายเท่านั้น โดยหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปที่บ้านพักย่านอินทามระ และทำเป็นครั้งแรกเงินที่ใช้นำไปใช้จ่ายส่วนตัว

น.ส.อามีนะ ยังถาวร อายุ 38 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า อยู่กินกันมาแล้ว 2 ปี ตนมีอาชีพเป็นแม่บ้าน ส่วนสามีมอเตอร์ไซค์รับจ้างย่านอินทามระ สามีเป็นคนดูแลครอบครัวอย่างดี แต่มักจะมีปัญหาทะเลาะกันกับตนบ่อยครั้ง ซึ่งเวลาที่มีปากเสียงฝ่ายสามีจะเดินหนีออกไปนอกบ้านประจำ วันเกิดเหตุก็มีปากเสียงกันจนสามีเดินออกจากบ้านก่อนจะกลับมาที่บ้านและทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งมาทราบตอนที่สามีถูกตำรวจจับกุม เชื่อว่าสาเหตุที่ทำลงไปมาจากการประชดประชันหลังจากที่ทะเลาะกัน

พล.ต.ต.โชคชัย เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุตำรวจได้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายจนทราบว่าพักอาศัยอยู่ซอยอินทามระ 29 จึงนำกำลังไปควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.พหลโยธิน เบื้องต้นคนร้ายให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ได้เสพยาเสพติดก่อนนั่งรถเมล์ออกจากที่พักมาลงที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว และเดินเลาะกำแพงโรงเรียนหอวัง จนพบเด็กนักเรียนผู้เสียหายจึงลงมือก่อเหตุโดยใช้วิธีการข่มขู่ชิงโทรศัพท์มือถือ แต่เด็กนักเรียนส่งเงินให้ 100 บาท หลังก่อเหตุได้ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนีกลับไปยังบ้านพัก และเอาเงินไปใช้จ่ายตามปกติ

พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวอีกว่า คนร้ายเคยมีประวัติจำหน่ายยาเสพติดเมื่อปี 2545 ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะอ้างว่าเงินไม่พอใช้ จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว และไม่มีอาวุธตามที่ข่มขู่แต่อย่างใด ทั้งนี้ตำรวจคุมตัวคนร้ายส่งฟ้องศาลอาญารัชดาเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับคดีนี้ภายหลังเกิดเหตุตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นคดีที่น่าสนใจ อยากฝากถึงประชาชนในการเดินในที่สาธารณะเพียงลำพังให้สังเกตสิ่งรอบตัว หรือบุคคลน่าสงสัย หากเกิดเหตุก็ขอให้รีบแจ้งตำรวจทันที

วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ยื่นคำร้องฝากขัง นายชยันต์ ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 65 เวลาประมาณ 05.40 น. ขณะที่ ผู้เสียหายอายุ 17 ปี ได้เดินข้ามสะพานลอยเพื่อไปยังฝั่งโรงเรียนหอวัง ระหว่างเดินมาถึงบนทางเท้าฝั่งโรงเรียนหอวัง ได้มี นายชยันต์ ผู้ต้องหา เดินมาประชิดตัวผู้เสียหาย แล้วพูดว่า “อย่าส่งเสียงดัง น่ะให้เดินตามมา” ผู้เสียหาย ตกใจ จึงไม่กล้าส่งเสียงดัง แล้วบอกว่า “ส่งโทรศัพท์มือถือมา จึงต่อรองว่าเป็นเงินแทนได้หรือไม่ นายชยันต์ผู้ต้องหา จึงตอบตกลงและให้เอาเงินมา 20 บาท เมื่อผู้เสียหายหยิบกระเป๋าสตางค์จะหยิบเงินสดให้ 20 บาท นายชยันต์ผู้ต้องหามองเห็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท ผู้เสียหายจึงได้หยิบธนบัตรฉบับ 100 บาท ในกระเป๋าเงินของตนแล้วหลบหนีไปผู้เสียหายจึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดที่ บนทางเท้าฝั่งโรงเรียนหอวัง

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 วรรคสอง มาตรา 335(1)

โดยการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอด หากแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากจะต้องทำการสอบสวนพยานอีก 6 ปาก, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษจึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง