ศาลอาญาให้ประกันตัว หนุ่มวัย 27 ล่อลวงลูกสาวตำรวจวัย 14 ถ่ายโป๊เปลือยแล้วแบล็กเมล์จนเหยื่อเครียดก่อเหตุสลด วงเงิน 5 หมื่น กำหนดเงื่อนไขเข้ม ห้ามติดต่อผู้เสียหาย เข้าสู่ระบบคอมฯ ติดอีเอ็มติดตามตัวได้ตลอด
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2565 ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม.สั่งการให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. คุมตัว นายปิยบุตร อุไรงาม อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาใช้สื่อสังคมออนไลน์แสวงหาประโยชน์ทางเพศกับเด็กและสตรี ในข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ไปฝากขังที่ศาลอาญาผัดแรก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันตัวเนื่องจากมีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจะหลบหนี
ต่อมาผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ปล่อยในวงเงินประกัน 5 หมื่นบาท และห้ามผู้ต้องหาติดต่อกับบุคคลที่อาจเป็นผู้เสียหาย ห้ามใช้คอมพิวเตอร์หรือสื่อสังคมออนไลน์ ให้ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือในการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือสื่อใดๆ ของผู้ต้องหา ให้เจ้าพนักงานสามารถตรวจสอบการเดินทางและการสื่อสารของผู้ต้องหาตลอดเวลา โดยให้ผู้ต้องหาสวมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว จากนั้นจึงทำสัญญาประกันตัวไปในที่สุด
สำหรับคดีนี้มีดาบตำรวจนายหนึ่ง พร้อมครอบครัว เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ว่า ลูกสาวอายุ 14 ปี ถูกผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นบัญชีแอคเคานต์แอปพลิเคชันดิสคอร์ด และทวิตเตอร์ปลอม หรืออวตาร ทักมาตีสนิท ก่อนล่อลวงให้ส่งภาพโป๊แลกกับเงิน แต่เมื่อได้ภาพไปแล้ว กลับนำภาพดังกล่าวมาข่มขู่แบล็กเมล์ ด้วยการให้วิดีโอคอล แล้วสั่งให้ทำในสิ่งที่ต้องการในทางลามกอนาจาร หากไม่ยอมทำตามจะนำภาพไปเผยแพร่ จนทำให้ลูกสาวเกิดความเครียดตัดสินใจฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา ตำรวจจึงสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวนายปิยบุตรได้ที่บ้าน ม.3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ เมื่อตรวจสอบข้อมูลภายในพบไฟล์รูปภาพและคลิปวิดีโอโป๊เปลือย หรือสื่อลามกอนาจารเกี่ยวกับเด็กเป็นจำนวนมาก
รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ พบมีหญิงสาวที่ปรากฏในคลิปและภาพกว่าร้อยคน เบื้องต้นเป็นหญิงสาวอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 26 คน ตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบพร้อมประสานผู้ปกครองให้เข้าดำเนินการทางกฎหมายต่อไป