บิ๊กรอยนำตร.ปส.บุกโกดังจับแก๊งยัดยาไอซ์ในรูปปั้นส่งนอก

ชลบุรี-“บิ๊กรอย” นำตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บุกโกดังที่ชลบุรี จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดส่งออกนอกประเทศไทย โดยนำยายัดไว้ในรูปปั้นปูนแล้วออกต่างประเทศ ยึดของกลางเป็นยาไอซ์รวม 201 กก.

เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 8 มิ.ย. 2565 ที่ลานจอดรถขนส่งไม่มีชื่อ หมู่ 10 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปราบยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ยะลา ร่วมกับ สตม., บช.ปส., ภ.2 และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย เมื่อประมาณช่วงเดือนมีนาคม 2565 ได้รับแจ้งเบาะแสขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ในเครือข่ายของคนจีนไต้หวัน นาย PUN (สงวนนามสกุล) ชาวไต้หวัน และได้ตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในการพยายามลักลอบนำเฮโรอีนและเคตามีนออกนอกประเทศไทย

นาย PUN มีแฟนเป็นหญิงไทย ทราบชื่อว่า นางสาวจู (นามสมมติ) จึงได้ทำการสืบสวนติดตามพฤติกรรม พบว่า มีการเดินทางเข้าออกประเทศไทยไปไต้หวันอยู่บ่อยครั้ง และพบพฤติกรรมน่าสงสัยในการติดต่อเช่าโกดังสินค้าในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และลงพื้นที่เข้าทำการตรวจสอบโกดังสินค้าดังกล่าว พบว่าภายในโกดังสินค้ามีรูปปั้นอยู่ภายใน ซึ่งเชื่อว่าภายในรูปปั้นน่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่

จากการตรวจสอบพบ รูปปั้นจำลองหัวโมไอ จำนวน 6 ตัว แบ่งเป็นขนาดใหญ่ 3 ตัว และขนาดเล็ก 3 ตัว มีลักษณะต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ เจ้าหน้าที่ได้ผ่าพิสูจน์รูปปั้น พบภายในหัวโมไอมีการซุกซ่อนยาเสพติดประเภทไอซ์เป็นจำนวนมาก น้ำหนักรวมกว่า 201 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในถุงชา ยี่ห้อจิงเตี่ยน ชาดี จึงแกะออกมาตรวจพิสูจน์ด้วยชุดตรวจยาเสพติดของ ป.ป.ส. พบว่าเป็นยาไอซ์ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสืบสวนพบว่า มีการส่งรูปปั้นโมไอเข้ามาจากไต้หวัน และนำเข้ามาในประเทศไทย เมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2564 โดยสำแดงผ่านพิธีทางศุลกากรว่า นำเข้ามาในประเทศเพื่อจัดนิทรรศการ แสดงโชว์ แต่เมื่อนำเข้ามาในประเทศไทยแล้วได้นำเอารูปปั้นดังกล่าวมาเก็บไว้ในโกดังสินค้า และไม่ได้นำออกไปจัดนิทรรศการ หรือแสดงโชว์ที่อื่นแต่อย่างใด โดยมี นางสาวกัญญาภัค (สงวนนามสกุล) ทำหน้าที่เป็นผู้ติดต่อและจ่ายค่าใช้จ่ายในการเช่าโกดัง และว่าจ้างเคลื่อนย้ายรูปปั้นจากท่าเรือแหลมฉบังไปเก็บไว้ในโกดังสินค้าดังกล่าว ซึ่งจากการติดตามพฤติกรรมของ นางสาวจู พบว่ามีการโอนเงินให้แก่ นางสาวกัญญาภัค จำนวนหลายครั้ง โดยที่ นางสาวจู และ นางสาวกัญญาภัค ไม่พบว่าประกอบอาชีพและมีรายได้ที่แน่นอน แต่พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีเป็นจำนวนหลายสิบล้านบาท

ต่อมาประมาณปลายเดือนพฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่ามีการเตรียมการที่จะขนย้ายรูปปั้นดังกล่าวกลับไปยังไต้หวัน โดย นางสาวกัญญาภัค ทำหน้าที่เป็นผู้ติดต่อว่าจ้างบริษัท โลจิสติกส์ ในพื้นที่ อ.แหลมฉบัง ให้ทำการขนย้ายรูปปั้น เพื่อทำการส่งรูปปั้นดังกล่าวกลับไปที่ไต้หวัน และได้มีการขนย้ายรูปปั้นดังกล่าวจากโกดังสินค้าในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนำมาเก็บรักษาไว้ที่บริษัทฯ พื้นที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ระหว่างที่รอคิวการขนส่งลงเรือเพื่อเดินทางไปยังไต้หวันต่อไป

ซึ่งจะเห็นได้ว่ากลุ่มชาวจีนไต้หวันกลุ่มนี้มีพฤติกรรมในการนำเอารูปปั้นเข้ามาในประเทศไทย โดยสำแดงว่านำมาใช้จัดนิทรรศการหรือแสดงโชว์ จากนั้นจะซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในรูปปั้นดังกล่าวแล้วนำออกนอกประเทศไทย โดยจะสั่งการให้กลุ่มของผู้หญิงไทยทำหน้าที่ในการจัดหาสถานที่เป็นโกดังสินค้าทำการเก็บรูปปั้น และเมื่อนำเอายาเสพติดซุกซ่อนไว้เรียบร้อยแล้วก็จะจัดส่งรูปปั้นดังกล่าวออกนอกประเทศ

จากแนวทางการสืบสวนพบว่า ขบวนการขนยาเสพติดครั้งนี้พบว่ามีความเชื่อมโยงกับการที่เจ้าหน้าที่พบยาไอซ์ 300 กิโล ที่ จ.นนทบุรี เมื่อปี 2563 โดยเครือข่ายยาเสพติดจะเปลี่ยนวิธีการลำเลียงยาเสพติดอยู่ตบอดเวลาเพื่อยากต่อการถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ส่วนยาเสพติดนั้นพบว่าส่วนใหญ่จะถูกนำเข้ามาจากทางด้าน จ.เชียงราย เป็นส่วนใหญ่.

Related posts