ทุบสถิตใหม่! งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ วันเดียว! ทะลักกว่า 1.7 แสนคน คาดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท

คนไทยไม่กลัวผี! มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 ภายใต้ธีม “อ่านโลกนี้ ยันโลกหน้า” สร้างสถิติใหม่! วันหยุดอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เพียงวันเดียว! คนทะลัก 173,665 คน จากสถิติเดิมสูงสุด 162,135 คน คาดเงินสะพัด พีกสูงสุดกว่า 100 ล้านบาท ด้านสำนักพิมพ์สร้างแรงดึงดูดการอ่านด้วย Interactive Book สร้างประสบการณ์ใหม่ให้นักอ่าน

นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า งาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29” ซึ่งได้รับการสนับสนุนกิจกรรมจาก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม โดยการทำงานของอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหนังสือ ภายใต้ THACCA ระหว่างวันที่10-20 ตุลาคม 2567 ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ธีม “อ่านโลกนี้ ยันโลกหน้า”สร้างสถิติใหม่ มียอดนักอ่านเข้าร่วมงานในวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ สุดคึกคัก โดยเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพียงวันเดียว! มียอดผู้เข้าร่วมงานทะลุ 173,665 คน เทียบกับงานครั้งก่อนที่เคยสูงสุดที่ 162,135 คน ส่งผลให้มีเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท ในช่วงวันดังกล่าว โดยเฉลี่ยการใช้จ่ายในงานจะอยู่ที่ประมาณ 600 บาทต่อคน ทำให้มั่นใจเป็นอย่างมากว่าตลอดการจัดงานทั้งสิ้น 11 วัน จะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 1,600,000 คน เพิ่มจากการจัดงานครั้งก่อนที่มีผู้เข้าร่วมงาน 1,300,000 คน และมีเงินสะพัดกว่า 460-480 ล้านบาทตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ทั้งนี้ มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 นอกจากกองทัพหนังสือมากมายกว่า 2 ล้านเล่ม ให้เลือกช้อปอย่างจุใจ มีหนังสือปกใหม่กว่า 3,000 เล่ม นอกจากนี้สำนักพิมพ์ต่างๆ ยังนำเสนอหนังสือรูปแบบใหม่ที่ใช้นวัตกรรม Interactive Book สร้างประสบการณ์ใหม่ให้นักอ่าน เข้ามาผสมผสาน เพื่อประกอบหรือเสริมเนื้อหา เช่น การจัดทำคิวอาร์โค้ด เพื่อนำไปสู่คลิปวิดีโอทั้งขนาดสั้นและยาว, หนังสือเสียง, พอดแคสต์, ภาพประกอบ และอินโฟกราฟิก เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ สนุกสนานและเสริมสร้างการเรียนรู้ ทั้งหนังสือเด็กเสริมทักษะ หนังสือภาษาอังกฤษ หนังสือพัฒนาตนเองและหนังสือนวนิยาย เป็นต้น ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีมากจากนักอ่าน

“สำนักพิมพ์ต่างๆ กำลังปรับตัวจากการผลิตหนังสือรูปเล่มธรรมดา เป็นการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้นำเสนอมากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าของหนังสือ รวมทั้งสร้างแรงดึงดูดความสนใจจากนักอ่าน เห็นได้ชัดจากหนังสือเสริมทักษะด้านต่างๆ ของเด็กโดยเฉพาะการสอนภาษาต่างประเทศทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งช่วยเสริมพัฒนาการของเด็กได้ดีและรวดเร็วขึ้น” นายสุวิช กล่าว

ตัวอย่างหนังสือจากสำหนักพิมพ์ แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด เช่น หนังสือชุดหนูน้อยหัดอ่าน ซึ่งเดิมเป็นหนังสือขายดีอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันได้นำ Interactive Book เข้ามาประกอบเนื้อหา โดยออกแบบคิวอาร์โค้ด เพื่อนำไปสู่คลิปวิดีโอ นำไปสู่เนื้อหาในหนังสือเพื่อการฟัง พูด อ่าน เขียน และบทสนทนา พร้อมกับมีกิจกรรมพิเศษท้ายบทให้ร่วมสนุกเพื่อเสริมการพัฒนาทักษะต่างๆ ของเด็ก

หรือจากสำนักพิมพ์เมต้า เอ็ดดูเคชั่น ไทยแลนด์ กับโปรแกรมเสริมภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอนุบาล เพื่อการฝึกฟัง พูด และสนทนา ผ่านหนังสือและจอโทรทัศน์ด้วยกล่อง KIVA BOX บรรจุข้อมูลแบบเรียนและแผนการเรียนการสอนจำนวน 1 ปี ซึ่งเหมาะกับครูผู้สอนในการวางแผนการเรียนการสอน

น.ส.ฐิตาริยา มัจพันธุ์ ตัวแทนจากสำนักพิมพ์แสงดาว เล่าว่า สำนักพิมพ์ทดลองนำเทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดมาใช้กับหนังสือเรื่อง “มาดามสามก๊ก ฉบับศาสตร์ยอดผู้นำ” นำเสนอให้ผู้อ่านครั้งแรกในงานมหกรรมหนังสือ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักอ่านจำนวนมาก เนื่องจากเป็นความแปลกใหม่ ทันสมัย ต่อยอดจากหนังสือที่ขายดีอยู่แล้ว โดยทุกท้ายบทของหนังสือจะมีคิวอาร์โค้ดเพื่อสแกนนำไปสู่ลิงค์ใน YouTube บทสรุปย่อ ทั้งภาพและเสียง โดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นของนักเขียนในเนื้อหาของบทนั้นๆ ซึ่งเท่ากับเป็นการสื่อสารกับนักเขียน ทำให้ใกล้ชิดกับนักอ่านมากยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนหนังสือมีชีวิต

“ในยุคโซเชียลมีเดีย สำนักพิมพ์ก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวไปสู่โลกใหม่ การทำอะไรที่ตอบโจทย์นักอ่านรุ่นเก่าและรุ่นใหม่เป็นสิ่งสำคัญ แม้ผลตอบรับของเล่มแรก ยังอยู่ในระดับกลางๆ แต่เรามีความเชื่อมั่นว่าในอนาคตจะเป็นที่ยอมรับของนักอ่านเพราะมีความแปลกใหม่ สแกนข้อมูลจะไปลิงค์สรุปเนื้อหาที่เราได้อ่านไปแล้ว มีภาพ มีเสียง ออก Action ทำให้นักอ่านสนุกและสร้างประสบการณ์ใหม่” น.ส.ฐิตาริยา กล่าว

ทั้งนี้ นักอ่านและผู้ที่สนใจ หนังสือนวัตกรรม Interactive Book สร้างประสบการณ์ใหม่ให้นักอ่าน แวะมาชมได้ที่งาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29” ระหว่างวันที่ 10-20 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

Related posts