Ch-newsthailand.com ผช.ผบ.ตร.และ ผบช.ภ.1 แถลงข่าวร่วมกันจับกุมแก๊งคลอฯพร้อมบุกยึดบุหรี่ไฟฟ้า

ผช.ผบ.ตร.และ ผบช.ภ.1 แถลงข่าวร่วมกันจับกุมแก๊งคลอฯพร้อมบุกยึดบุหรี่ไฟฟ้า


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผช.ผบ.ตร และ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีนผบช.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม บัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้เงินคืน ผู้เสียหายสุดดีใจและประทับใจในการทำงานของตำรวจและ จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อน เป็นภัยอันตรายต่อ เด็กและเยาวชน อนาคตของชาติทำลายสุขภาพ ในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ของกลางเป็นจำนวนมาก


ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า
ตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบช.ภ.1 , สั่งการให้ ข้าราชการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกันทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 และในเขตพื้นที่ใกล้เคียง บก.สส.ภ.1 นำโดย พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1,
พ.ต.อ.พีรศักดิ์ รอดบน รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง รอง ผบก.ปฏิบัติราชการ บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส.ภ.1 , พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน บก.สส.ภ.1
ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาขนบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2 ราย ดังต่อไปนี้


1. นายอภิวัชญ์ หรือโอ๊ต ชูศักดิ์ชินคุณ อายุ 29 ปีเลขที่บัตรประชาชน 1102002599961 ที่อยู่ 66/240 ซ.บางแวก 79 ถ.บางแวก แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ในข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง หรือเป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกอากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560”
สถานที่จับกุม บ้านเลขที่ 66/240 ซ.บางแวก 79 ถ.บางแวก แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์กล่าวคือ บก.สส.ภ.1 ได้ดำเนินการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกรณีผู้ลักลอบขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้าผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า โดยผิดกฎหมาย ชุดสืบสวนได้สืบสวนและทราบว่ามีผู้ที่ลักลอบจำหน่ายประกาศทางสื่อโฆษณาออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน X มีชื่อว่า “High Moon”

ได้เปิดให้มีการลักลอบจำหน่ายประกาศขายบุหรี่ไฟฟ้าผสมกัญชาซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามดังกล่าว โดยเปิดเป็นสาธารณะบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ มีช่องทางการติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ จากการสืบสวนพบว่า นายอภิวัชญ์ หรือโอ๊ต ชูศักดิ์ชินคุณ ผู้ต้องหา เป็นผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว ให้กับประชาชนทั่วไป จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ผู้ต้องหาพักอาศัยและซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ของกลางทั้งมด ไว้ที่บ้านเลขที่ 66/240 ซ.บางแวก 79 ถ.บางแวก แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลให้ออกหมายค้น
จากนั้น เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สส.ภ.1 ได้นำหมายค้นของศาลอาญาธนบุรี ที่ 496/2568 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2568 เข้าทำการตรวจค้น บ้านเลขที่ 66/240 ซ.บางแวก 79 ถ.บางแวก แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร พบ นายอภิวัชญ์ หรือโอ๊ต ชูศักดิ์ชินคุณ ผู้ต้องหา แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจค้น พบบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ทั้งสิ้น ….12,500….. ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การยอมรับว่าบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด เป็นของตนจริง มีไว้เพื่อลักลอบจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และจับกุม นายอภิวัชญ์ หรือโอ๊ต ชูศักดิ์ชินคุณ ผู้ต้องหา ในข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง หรือเป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกอากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ทั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงการกระทำผิดดังกล่าวว่าได้มีกลุ่มบุคคลได้ลักลอบนำบุหรี่ไฟฟ้ามาจัดจำหน่าย ซึ่งอาจทำให้วัยรุ่นและเยาวชนสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย และประชาสัมพันธ์ว่าการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในความครอบครอง มีความผิดทางกฎหมาย ทั้งนี้ทางตำรวจภูธรภาค 1 จะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว
โดยใช้มาตราการลงโทษทางกฏหมายในฐานความผิดขั้นสูงสุด เพื่อเป็นแบบอย่างมิให้การกระกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว และจะดำเนินการจับกุมการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนสืบไป

Related posts