ศบค.แจงยิบ เหตุผลไม่อนุมัติ เปิดผับ-บาร์ แต่สั่งเยียวยา อาชีพคนกลางคืน ปรับใหม่พี้นที่สีทั่วประเทศ ยกเลิกจังหวัดสีแดงเข้มและเคอร์ฟิว ขณะนายกฯ มอบของขวัญปีใหม่ ประชาชน ทำ Vaccine Passport แบบออนไลน์ ฟรี
เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวถึง ผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมเห็นชอบ ให้มีการขยายเวลาต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร เป็นครั้งที่ 15 ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2564 – 31 ม.ค. 2565
ส่วนการปรับระดับพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จากเดิม 6 จังหวัด ปรับเป็นไม่มีจังหวัดสีแดงเข้มแล้ว ทั้งนี้ให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 39 จังหวัด ปรับลดเหลือเป็น 23 จังหวัด พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 23 จังหวัด ยังอยู่ที่ 23 จังหวัด
ขณะพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 5 จังหวัด ปรับเป็น 24 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) ไม่มี ส่วนพื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) จากเดิม 4 จังหวัด ปรับเพิ่มเป็น 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, กระบี่, กาญจนบุรี, นนทบุรี, ปทุมธานี, พังงา และภูเก็ต
นายแพทย์ ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ส่วนการปรับมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 กรณียื่นเรื่อง ร้องขอเปิดสถานบันเทิงก่อนปีใหม่ เนื่องจากผู้ประกอบการและผู้ประกอบอาชีพกลางคืน มีความเดือดร้อนอย่างหนัก ให้กับ เลขาธิการ สมช. และ ทางเลขาฯ สมช. มีการนำข้อมูลที่เสนอมา เสนอเข้าที่ประชุม ศบค. หลายครั้ง ทั้งนี้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันนี้มีเหตุผลว่า หากต้องเปิดสถานบันเทิง มีความเสี่ยงหลายประเด็น ได้แก่ 1 ปัญหาการถ่ายเทอากาศในสถานบันเทิง 2 เป็นเรื่องพฤติกรรมส่วนบุคคล เพราะการดื่ม ต้องมีการถอดแมสก์ และทำให้มีการครองสติยากขึ้น และยังทำให้มีโอกาสระยะเวลาการอยู่ในสถานที่นั้น นานมากยิ่งขึ้น มากกว่า การรับประทานอาหารเฉยๆ ซึ่งก็มีการหารือกันอย่างกว้างขวางในที่ประชุมใหญ่ ศบค. ในวันนี้
“ปีที่แล้ว 2563 เรามีเกิดเหตุขึ้น ทำให้ปีที่แล้ว เราพลาดโอกาสการฉลองเทศกาลปีใหม่ ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทย ดูไม่ดีในสายตานานาชาติ เนื่องจากมาตรการควบคุมโรคไม่ประสบความสำเร็จ ที่ประชุมจึงขอให้ดำเนินการตามแผนงานเดิม คือ เปิดสถานบันเทิง 16 ม.ค. 65 แต่ที่ประชุมก็ได้มีการพูดคุยหารือกันว่า เอายังงี้ให้ดูความพร้อมผู้ประกอบการ เป็นระยะๆ ถ้าผู้ประกอบการ ทำได้ตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ก็อาจพิจารณา เปิดให้เร็วกว่าเดิมได้เช่นกัน โดยเน้นว่าผู้ประกอบการ ต้องสามารถทำได้ตามมาตรการ โควิด ฟรีเซตติ้ง อย่างเคร่งครัด หากทำได้ก็จะได้เปิดได้เร็วขึ้น” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษก ศบค.กล่าวต่อว่า ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้น เรื่องรายได้ เพราะเข้าใจ หลายท่านมีความเดือดร้อนมาก ทางท่านนายกฯ ก็ให้ กระทรวงแรงงานไปสำรวจผู้ได้รับผลกระทบ ว่า มีจำนวนเท่าไร แล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกระทรวงการคลัง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มาดู ว่าจะมีการเยียวยากันอย่างไรต่อไป ซึ่งทาง ท่าน รมว.แรงงาน ได้แจ้งว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ขอนัดประชุม ผู้ประกอบการเพื่อหารือ มาตรการช่วยเหลือต่อไป
ส่วนกรณี การเปิดประเทศ ให้ผู้เดินทาง (นักท่องเที่ยว) สามารถเดินทางเข้าไทย ตั้งแต่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยอนุญาตให้เดินทางเข้าไทยทางอากาศ นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผลปรากฏตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 น้อยมาก ล่าสุด ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ได้มีมติ อนุญาตให้ผู้เดินทางเข้ามาในไทย ตรวจ ATK แทนตรวจ RT-PCR แล้ว เพื่อความรวดเร็ว และอำนวยความสะดวกให้ผู้เดินทางด้วย เมื่อตรวจแล้ว สามารถเดินทางไปได้ทุกจุดในประเทศไทย และตอนนี้มีการเตรียมเพิ่มผู้เดินทางเข้าไทยทางบกและทางเรืออีกด้วย โดยนำร่องทางบก ที่ จ.หนองคาย เริ่ม 24 ธ.ค.นี้
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ขณะเรื่อง เอกสาร Vaccine Passport (วัคซีนพาสปอร์ต) ขณะนี้ หากเป็นการขอในรูปแบบอีเล็กทรอนิกส์ เมื่อใส่ตัวเลขแล้ว ใบรับรองจะขึ้นมาอยู่ในมือถือของท่านผู้ขอทันที แต่ทั้งนี้ต้องเป็นประเทศที่เขามีการรับดำเนินการในรูปแบบนี้ด้วย ซึ่งเดิมทีการขอใบรับรองมีค่าใช้จ่าย แต่ตอนนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว เหตุ ท่านนายกฯ ขอให้เป็นของขวัญปีใหม่ประชาชน (ส่วนการขอวัคซีนพาสปอร์ต ที่เป็นรูปเล่ม ยังมีค่าใช้จ่ายที่ 50 บาท).