ตำรวจนครบาลจับเครือข่ายชาวจีน ปล่อยกู้นอกระบบออนไลน์ เรียกอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 234 ต่อเดือน พบมีการเปลี่ยนโอนทรัพย์สินเป็นเงินสกุลดิจิทัล ก่อนโอนกลับไปให้นายทุนในต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.64 พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลจับกุมเครือข่าย แอพพลิเคชั่น เงินกู้นอกระบบผ่านออนไลน์ ชื่อ Cash Go หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า แอพพลิเคชั่นนี้ มีการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายให้กับบุคคลทั่วไปในโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งผู้ที่กู้ ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่น เพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ บัญชีธนาคาร รายชื่อผู้ติดต่อภายในโทรศัพท์ ตำแหน่งการใช้งาน รูปภาพ เป็นต้น จากนั้น เมื่อกู้เงินสำเร็จ จะมีระยะเวลากำหนดชำระคืนภายใน 7 วัน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 234 ต่อเดือน
ทั้งนี้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดระยะเวลา จะถูกทวงถามด้วยวิธีการส่งข้อความไปข่มขู่ผ่านบุคคลที่ 3 ในลักษณะประจาน ทำให้ผู้กู้เงินได้รับความอับอายเสียชื่อเสียง
ข้อมูลของตำรวจพบว่า กลุ่มผู้ปล่อยเงินกู้ มีนายทุนชาวจีน ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาหลายปี และแต่งงานกับหญิงไทย พักอาศัยที่อาคารสยามคอนโดมิเนียม ถนนพระราม 9 ซอย 13 เขตห้วยขวาง จึงขอหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้น พบนายเจี๋ย หลิว สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นผู้พักอาศัย ส่วนการตรวจค้นห้องพักพบหลักฐานหลายรายการ เช่น สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 17 เล่ม / โทรศัพท์มือถือ จำนวน 23 เครื่อง รวมทั้ง ซิมการ์ดโทรศัพท์อีก 13 ซิมการ์ด
นายเจี๋ย หลิว ให้การยอมรับกับตำรวจว่า เป็นผู้ดูแลจัดการแอพพลิเคชั่นเงินกู้หลายแอพพลิเคชั่น ซึ่งมีเซิฟเวอร์อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยว่าจ้างบุคคลอื่นเปิดบัญชีธนาคาร และผูกกับซิมการ์ดหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อทำการรับโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าที่ได้รับอนุมัติเงินกู้ และใช้รับโอนเงินจากลูกหนี้ที่ผ่อนชำระเงินกู้ ซึ่งเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระ จะส่งข้อความประจานไปยังบุคคลอื่น เพื่อให้ลูกหนี้เกิดความอับอาย
นอกจากนี้ จากการสืบสวน พบว่า ทุก ๆ 3 เดือน ผู้ต้องหาได้กำไรจากการปล่อยเงินกู้ ประมาณ 40 ล้านบาท ก่อนเปลี่ยนเป็นเงินสกุลดิจิทัล โอนกลับไปให้นายทุนชาวจีน ในต่างประเทศ ซึ่งฝ่ายสืบสวน จะมีการขยายผลถึงเจ้าของเงินสกุลดิจิทัลดังกล่าวต่อไป
เบื้องต้น ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม ดำเนินคดี ในความผิดฐาน ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต / ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด