ขอนแก่น- ตำรวจระดมกำลังปิดล้อมปูพรมล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมืองขอนแก่น ยิงสนันลั่นเมืองเพื่อข่มขู่
เมื่อเวลา 19.30น. วันที่ 20 พ.ย.2564 พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ขณะกำลังออกตรวจพื้นที่ในความรับผิดชอบตามปกติ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ “แก่นนคร 191 ” สภ.เมืองขอนแก่น ว่าเกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนทำการชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างสรพพสินค้าชื่อดังในเขต จ.ขอนแก่น (เซ็นทรัล พลาซ่าขอนแก่น) หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกืดเหตุ พร้อมกับ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น
เมื่อไปถึงภาบในร้านทองกีรติ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกไอ้โม่ง ชูปืนขึ้นฟ้าเข้ามาภายในร้านทอง แต่เป็นจังหวะที่พนักงานให้บริการลูกค้าอยู่ จึงไม่มีใครเห็นคนร้าย ก่อนที่คนร้ายจะยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด จนลูกค้าและพนักงานแตกกระเจิงคนละทาง แล้วคนร้ายได้กระโดดข้ามเคาท์เตอร์ไปกวาดเอาทองรูปพรรณน้ำหนักรวมกว่า 10 บาท หลบหนีไป โดยขณะหลบหนีได้ยิงปืนที่หน้าร้าน เพื่อเปิดทาง 1 นัดแล้ววิ่งหลบหนีออกจากห้างไปทางศาลหลักเมืองขอนแก่น
พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายเป็นชาย 1 คน มาพร้อมอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด และยิงเปิดทาง 1 นัดโชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ท่ามกลางคนที่มาซื้อของภายในห้างสรรพสินค้าต้องวิ่งหลบหนีหาที่หลบเพื่อความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบร้านทองที่เกิดเหตุ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาเด็ดขาด
ขณะที่ จากการสอบถามพนักงานร้านทองที่อยู่ร้านข้างกัน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 19.20 น. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดแล้วมีหัวกระสุนปืนมาตกที่หน้าร้าน วินาทีนั้นตนเองตัดสินใจวิ่งไปหลบหลังร้านทันทีพร้อมกับพรักงานคนอื่นๆ ก่อนที่จะมีเสียงร้องชุลมุนวุ่นวาย กระทั่งตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะนี้เบื้องต้นพบว่าคนร้ายมี 1 คน พร้อมอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ได้ทองไปยังไม่ทราบจำนวน อยู่ระหว่างตรวจสอบทองที่หายและแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมกระจายกำลังปูพรมเดินเท้าหาร่องรอยคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป