ฝนถล่มชุมพรท่วมระลอกสอง สังเวยแล้ว 3 ศพ เดือดร้อนเกือบ 3 หมื่นราย

ชุมพร – น้ำท่วมชุมพรเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ขณะคนเดือดร้อนแล้วเกือบ 30,000 คน วอนเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือชาวบ้านต้นไทร 200 ปี ทับบ้านพัง 5 หลัง ขณะที่ฝนยังคงกระหน่ำรอบสอง

จากกรณีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดชุมพร ทำให้มีน้ำท่วมหลายจุด ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ล่าสุดปรากฏว่าได้เกิดฝนตกหนักลงมาอีกในหลายพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำที่กำลังลดลงกลับเพิ่มขึ้นมาอีกและมีปริมาณน้ำท่วมขังบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในหลายพื้นที่

สำหรับการช่วยเหลือ นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ. รักษาราชการแทน ผวจ.ชุมพร ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด และอำเภอทุกแห่ง เพื่ออำนวยการ ประสานการเผชิญเหตุ และบูรณาการ ระดมสรรพกำลังและทรัพยากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนให้แก่พื้นที่ประสบภัย พร้อมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง และจัดชุดปฏิบัติการเร่งให้ความช่วยเหลือ

พร้อมทั้งจัดตั้งครัวจิตอาสาจังหวัดชุมพร โดยมีสมาชิกเหล่ากาชาด หน่วยงานต่างๆ กำลังพลจิตอาสาจาก มทบ.44. ปภ. เครือข่ายจิตอาสาในพื้นที่ รวมไปถึงภาคส่วนต่างๆ ที่นำของมาบริจาค ร่วมกันทำครัวจิตอาสา ณ หอประชุมจังหวัดชุมพร ผลิตข้าวกล่องและอาหารเพื่อนำไปแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเพื่อนบรรเทาความเดือดร้อน

สำนักงานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชุมพร สรุปความเสียหายเบื้องต้นในช่วงน้ำท่วม 3 วันที่ผ่านมา มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสวี อำเภอหลังสวน อำเภอทุ่งตะโก อำเภอเมืองชุมพร อำเภอท่าแซะ อำเภอปะทิว และอำเภอพะโต๊ะ รวมพื้นที่ประสบภัย 50 ตำบล 358 หมู่บ้าน 10 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 8,553 ครัวเรือน 27,136 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย โรงเรียน 1 แห่ง วัด 4 แห่ง บ้านพักอาศัย 528 หลัง สถานที่ราชการ 2 แห่ง โรงงาน 2 แห่ง ถนน 155 สาย คอสะพาน 1 แห่ง ฝายน้ำล้น 5 แห่ง ท่อระบายน้ำ 3 แห่ง ท่อชนิดลอดเหลี่ยม 1 แห่ง

ผู้เสียชีวิต 3 ศพ ในพื้นที่อำเภอสวี คือ นายเจริญศักดิ์ เหล่าสังข์สุข อายุ 49 ปี อาชีพทำสวน อยู่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ที่ 11 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร อาชีพทำสวน น.ส.ธิดา เหล่าสังข์สุข อายุ 19 ปี ทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 พ.ย. จากถูกไฟฟ้าช็อต ขณะขนย้ายข้าวของหนีน้ำ และผู้เสียชีวิตศพที่ 3 จากการจมน้ำคือ นายมนัส แดงประดับ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/3 หมู่ที่ 8 ต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร

ขณะที่การช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกต้นไทรขนาดใหญ่อายุกว่า 200 ปี โค่นล้มฟาดบ้านเรือนในชุมชนพังเสียหาย 5 หลัง มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย โดยบ้านหลังทั้ง 5 หลัง ที่พังเสียหายขณะนี้ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม ทำให้ชาวบ้านต้องต้องหาวัสดุมาปิดบังและกั้นตามมุมบ้านเพื่อกันลมฝนที่ไม่เสียหายเพื่อใช้อาศัยหลับนอนได้อาศัยอยู่เป็นการชั่วคราวตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา

นางสว่างจิตต์ ศรียาภัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลพ้อแดง กล่าวว่า ขณะที่ได้ประสานไปยังผู้เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานให้มาช่วยเหลือแล้ว ส่วนความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติ ตามระเบียบราชการบ้านที่พังเสียหายทั้งหลังจะได้รับเงินช่วยเหลือหลังละไม่เกิน 5 หมื่นบาท บ้านที่เสียหายบางส่วนหลังละไม่เกิน 5 พันบาท ซึ่งตามความเป็นจริงน่าจะไม่เพียงพอในการสร้างบ้านใหม่ทั้งหลัง และที่พังเสียหายบางส่วน เฉพาะค่าแรงงานก็หมดแล้ว จึงจะต้องประสานไปยังฝ่ายทหาร ให้เข้ามาช่วยเหลือในการสร้างบ้านต่อไป

ด้านนางสุจิณา อายุ 65 ปี ที่บ้านพังเสียหายเกือบทั้งหลัง กล่าวว่า ตอนนี้ยังอาศัยอยู่ในบ้านที่ถูกต้นไม้ล้มทับพังเสียหาย โดยใช้กระเบื้องและวัสดุอื่นๆ มาปิดกั้นหลังคาและกั้นตามมุมบ้านที่ยังพออยู่อาศัยได้ชั่วคราวไปก่อน เนื่องจากไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน

ส่วนผู้บาดเจ็บจากกรณีดังกล่าว จำนวน 3 ราย ขณะนี้แพทย์ให้กลับไปรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว 2 ราย ส่วนอีก 1 รายยังต้องรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเนื่องจากข้อนิ้วชี้ขวาถูกกิ่งไว้หักลงมาพาดจนเกือบขาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง