ศาลฎีกา พิจารณาคดีครั้งแรกและตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีรุกพื้นที่ป่าสงวนใน จ.ราชบุรี โดยวันนี้ศาลได้ให้ทั้ง 2ฝ่าย ยื่นรายชื่อพยาน และกำหนดวันนัดไต่สวนพยานของฝั่ง ป.ป.ช. ทั้งสิ้น 12 ปาก ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2565 และพยานของ น.ส.ปารีณาจำนวน 10 ปากในช่วงเดือนมีนาคม 2565 และกำหนดวันนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 7 เม.ย.65 เวลา 10.30 น.
นอกจากนี้ ศาลฎีกาได้พิจารณาคำร้อง เพิ่มเติมอีก 2 คำร้อง โดยคำร้องแรกเป็นคำร้องที่ ป.ป.ช. ยื่นขอให้ศาลพิจารณาว่า หลังจากศาลฎีการับคดีนี้ไว้พิจารณาและสั่งให้ น.ส. ปารีณา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 แต่ น.ส.ปารีณา ยังคงไปทำหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ของสภาผู้แทนราษฎร กรณีดังกล่าวถือเป็นการฝ่าฝืน คำสั่งศาลหรือไม่
โดยศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นหน้าที่ของ สภาผู้แทนราษฎร การทำหน้าที่กรรมาธิการวิสามัญ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. ดังนั้น น.ส.ปารีณา เมื่อได้รับคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมาธิการได้
นอกจากนี้ศาลได้พิจารณาคำร้องที่น.ส.ปารีณา ขอให้ศาลพิจารณว่ากระบวนการยื่นคำร้องของ ป.ป.ช.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ กรณีที่คณะกรรมการ ปปช. ไต่สวนคดีจริยธรรมร้ายแรงจากข้อกล่าวหาบุกรุกที่ป่าสงวน โดยไม่ผ่านการวินิจฉัยของคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้ตัดอำนาจ ป.ป.ช. ในการไต่สวนความผิดทางจริยธรรมเองได้ กรณีนี้จึงไม่ขัดรัฐธรรมนูญ จึงไม่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จึงมีคำพิพากษา ยกคำร้อง