อย่าหาทำ สว.ด่านช่องสามหมอแจงสาเหตุป่วนด่านทำคนร้ายหนี-สั่งเชือดเกรียนคีย์บอร์ด (คลิปข่าว)

 

อย่าหาทำ สว.ด่านช่องสามหมอแจงสาเหตุป่วนด่านทำคนร้ายหนี-สั่งเชือดเกรียนคีย์บอร์ด

 

 

 

25 ต.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีเหตุการณ์รถกระบะดัดแปลงเป็นตู้ขนชิ้นส่วนไก่ แอบฉวยโอกาศขับรถแหกด่าน สภ.ช่องสามหมอ จนต้องระดมกำลัง จนท.ตำรวจสภ.เมืองชัยภูมิและจนท.ตำรวจทางหลวงตั้งจุดตรวจจุดสกัดคนร้ายรายนี้ และติดตามรวบตัวได้ที่ต.บ้านผือ อ.เมืองชัยภูมิ รวมระยะทางกว่า50-100 กม.โดยผู้ต้องหาสารภาพว่าเสพยาบ้ามา จึงกลัวว่าตร.จะตรวจฉี่และเจอสารเสพติดอีก ซึ่งภาพกล้องวงจรปิดทั้งที่ด่านตรวจ สภ.ช่องสามหมอและกล้องติดหน้ารถจาก ตร.ชุดไล่ล่าบันทึกไว้ได้อีกด้วย

 

ขณะที่ทางด้าน
พ.ต.ท.ภราดร กลัดนุ่ม สว.สภ.ช่องสามหมอ ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ผู้ต้องหารขับรถขนไก่หนีด่านตรวจยาเสพติดในครั้งนี้ ว่าซึ่งถ้าหากดูจากกล้องวงจรปิดที่จุดตรวจยานยาเสพติดช่องสามหมอแล้วนั้นจะเห็นมีรถกระบะสีขาวคัน ก่อนหน้ารถกระบะขนไก่ คันของผู้ต้องหาที่แหกด่านนั้น เนื่องจากด่านบูรณะการยาเสพติดหรือด่าน
สภ.ช่องสามหมอเป็นด่านที่ช่องตรวจบุคคลเข้า-ออก ที่มีรอยเขตจังหวัดเชื่อมต่ออำเภอแก้งคร้อ -อำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น จึงเป็นพื้นที่เสี่ยง ที่ผู้ค้ายาเสพติดจะใช้เส้นทางนี้ลำเลียงนำยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ภาคกลางได้ จึงมีความจำเป็นที่ให้ต้องตั้งเป็นด้านยาเสพติดอย่างถาวร ซึ่งรถกระบะคันดังกล่าวนั้นมีเจตนาที่จะขัดขวางก่อกวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และ เป็นการสบโอกาสที่ให้คนร้ายหรือผู้กระทำผิดใช้โอกาศในการหลบหนี ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจปัสสาวะของกระบะดังกล่าวก็ไม่พบสิ่งผิดหรือสารเสพติดในร่างกายจึงปล่อยตัวให้กลับไปได้

 

โดยกรณีการกระทำนี้ เนื่องจากมีกระบะคันหน้าก่อนหน้ารถขนไก่ที่ได้มีการตั้งกล้องมือถือเพื่อถ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบไลฟ์สดทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเบี่ยงเบียนความสนใจไปที่คันดังกล่าวจึงทำให้เป็นช่องว่างสบโอกาศให้หลบหนี ก่อนที่จะมีการติดตามไล่ล่าตัวรถกระบะและผู้ต้องหาดังกล่าวมาดำเนินคดีทางกฎหมายไปแล้วในเบื้องต้น

 


จนล่าสุดได้มีเพจดังนำภาพที่ประชาชนได้ถ่ายและบันทึกภาพ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช่องสามหมอ และโพสจนมีเกรียนคีย์บอร์ดบนโลกโซเชียลออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน อย่างเสียหาย เช่นการถ่ายภาพหรือการบันทึกภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถสมควรทำได้แต่ต้องอยู่ในขอบเขตและระเบียบของกฎหมาย

ซึ่งจากเหตุการณ์ที่นำเอาภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ช่องสามหมอ แพร่ขึ้นไปบนโลกโซเชียลต่างๆมีคนเข้ามาคอมเม้นและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเสียหายเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดีไปแล้ว กับบุคคลที่ใช้วาจาคำพูดหรือข้อความที่ไม่สร้างสรรค์และเป็นการหมิ่นประมาทใส่ร้ายการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและผิด พรบ.คอมพิวเตอร์มีโทษหนักปรับถึง 200,000 บาท

เหตุการณ์ดังกล่าวจึงอยากจะขอเตือนไปยังบุคคลทั่วไปบนโลกโซเชียล ควรมีขอบเขตในการที่จะแสดงความคิดเห็นหรือข้อความอันเป็นเท็จ ควรใช้วาจาที่สุภาพ มีเหตุผลและอย่าพาดพิง ว่ากล่าว ใส่ร้ายทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายเพราะฉะนั้นในครั้งนี้ ทาง จนท.จึงจำเป็นที่จะต้องแจ้งดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับบุคคลทั่วไปบนโลกโชเชียลได้ตระหนักในการแสดงความคิดเห็นอย่างระมัดระวังอีกด้วย///

 

CNT:ch- newsthailad

“พื้นที่ข่าวทั่วไทย ออนไลน์ทั่วโลก”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง