“อนุทิน” ย้ำ หยุดยาวสัปดาห์นี้ แม้มีปาร์ตี้ เปิดผับบาร์ รวมกลุ่มสังสรรค์ แต่หากยังยกการ์ด มาฉีดวัคซีน จะควบคุมการระบาด “โควิด” ได้ ลดความรุนแรงและเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงช่วงวันหยุดยาวสัปดาห์นี้อาจมีความเสี่ยงติดโควิดเพิ่มขึ้น ว่า สธ.ดีใจที่เห็นรายงานว่า มีผู้เข้ารับวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมากกว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เป็นประโยชน์มาก ๆ ต่อให้มีการติดเชื้อโอมิครอน BA.4 BA.5 ก็ยังช่วยลดความรุนแรงของโรคและการเสียชีวิต
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เป็นนิมิตรหมายที่ดี ขอให้ประชาชนเข้ามารับวัคซีนได้ทุกที่ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม สธ. กระจายวัคซีนไปยัง รพ.สต. และโรงพยาบาลหลักแต่ละจังหวัด ไม่ได้เอาไปเพื่อให้หมดอายุอย่างที่ใครพูดกัน ฉะนั้น การรับวัคซีนไม่ยากเลย ถ้าไปถึงก็ได้รับแน่นอน
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เราผ่านสถานการณ์เช่นนี้มา สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นคือ ปีนี้ไม่ซีเรียสเหมือนปีที่แล้ว เพราะทุกคนได้รับวัคซีน หากรับอย่างน้อย 3 เข็มขึ้นไป ก็จะลดอาการรุนแรงเสียชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องเน้นย้ำ ส่วนการติดเชื้อเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพราะเราเปิดประเทศ มีการเดินทาง แต่หากประชาชนยังตระหนัก สวมหน้ากากอยู่ การเดินทางสัญจรไปมาก็ไม่น่าก่อให้เกิดปัญหาที่กระทบสาธารณสุข
“การติดเชื้อ ถ้ามีปาร์ตี้ เปิดผับบาร์ สังสรรค์รวมกลุ่มคนมากมาย มีดนตรี มีหนังกลางแปลง หากมีความระมัดระวังก็จะควบคุมสถานการณ์ได้ เราเน้นที่ไม่ให้เกิดอาการรุนแรงมาก เพราะมีความสำคัญมาก” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. กล่าวว่า แม้สถานการณ์โรคโควิด 19 ของไทยจะเข้าสู่ระยะหลังการระบาดใหญ่แล้ว แต่ยังพบการติดเชื้อและเกิดการระบาดเป็นระลอกเล็ก ๆ ได้ ซึ่งขณะนี้การระบาดมีแนวโน้มสูงขึ้น ดังนั้น ในช่วงสัปดาห์นี้ที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ประชาชนอาจมีการไปท่องเที่ยว รวมกลุ่มทำกิจกรรมจำนวนมาก มีความเสี่ยงอาจทำให้การติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ที่เป็นห่วงคือการนำเชื้อมาติดกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่อาจทำให้มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ดังนั้น ขอให้ประชาชนยังต้องคงมาตรการป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่องและมารับวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
“การปฏิบัติตัวในช่วงวันหยุดนี้ ขอให้ประชาชนยังคงเข้มมาตรการป้องกันตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงการติดและแพร่เชื้อ โดยขอให้เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น หากมีความเสี่ยงหรือมีอาการให้ตรวจด้วย ATK นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนโควิด 19 โดยเฉพาะเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน จะช่วยลดความเสี่ยงอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้ ซึ่งสามารถวอล์กอินเข้ารับบริการได้” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว