ชัยภูมิ- สส.พรรคก้าวไกล ลงสำรวจรับฟังความเดือดร้อนชาวชัยภูมิเตรียมชงยกระดับสวัสดิการพื้นฐาน (คลิปข่าว)

 

 

ชัยภูมิ- สส.พรรคก้าวไกล ลงสำรวจรับฟังความเดือดร้อนชาวชัยภูมิเตรียมชงยกระดับสวัสดิการพื้นฐาน

(คลิปข่าว)

 

 

15 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิทั้ง 16 อำเภอ แบ่งเป็นโซนพื้นที่เศรษฐกิจเทศบาลเมืองชัยภูมิ 19 หมู่บ้าน 251 ตำบล40,977ครอบครัว 93,243 ราย และพื้นที่การเกษตร 129,230 ไร่ ขณะที่ 15 อำเภอมี ประชาชนเดือดร้อนทั้งหมด 180 ตำบล 1,243 หมู่บ้าน 98,721 ครอบครัว ผู้ประสบภัย 269,754 ราย พื้นที่ไร่นาเกษตรกรจำนวน 1,299, 283 ไร่ และสัตว์เลี้ยงที่เดือดด้วยอีกจำนวน 26,662 ตัว
ประชากรชาวชัยภูมิทั้งหมด 1-2 ล้านกว่าคน

 

ซึ่งที่ผ่านมานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ เพื่อเยี่ยมเยียน ชุมชนที่กำลังเกิดถูกน้ำท่วมในบางส่วน ทั้งมอบสิ่งของเพื่อให้กำลังใจ

ล่าสุด(14)พรรคก้าวไกลได้ส่ง นายสุเทพ อู่อั้น สส.พรรคก้าวไกล ตำแหน่ง ปธ.กมธ.แรงงาน พร้อมด้วยน.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.พรรค ตำแหน่งรองปธ.กมธ.พัฒนาสังคม
นายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.พรรคก้าวไกล ตำแหน่งเลขานุการ
กมธ.แรงงาน
นายทวีศักดิ์ ทักษิณ สส.พรรคก้าวไกล กมธ.แรงงาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ และประธานสหพันธ์แรงงานโตโยต้
ประเทศไทย
สหภาพแรงงานโตโยต้า ประเทศไทย เพื่อสำรวจความเสียหายรับฟังความเดือดร้อนจากประชาชนทั้ง หมู่และเยี่ยมกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ทั้งยังหาแนวทางการเร่งเยี่ยวยาฟื้นฟูในพื้นที่ชัยภูมิ ในวันที่ 14-15 ต.ค. ณ ม.กุดละลม ม.หนองโง้ง ม.หนองคล้า และชาวบ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ

 

 

 

โดยมีน.ส.นัฏฐิกา โล่ห์วีระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ชัยภูมิ เขต 1 พรรคก้าวไกล พร้อมผู้นำชุมชน ทีมงาน และชาวบ้านกุดละลม ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ ให้การต้อนรับก่อนที่จะรับฟังสรุปรายงานสถานการณ์น้ำท่วมทั้งตั้งข้อสันนิษฐาน สาเหตุส่วนใหญ่ และแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ฝนแล้ง อย่างเป็นระบบ อย่างยั่งยืนในครั้งนี้ จากนายธเนศ โลห์วีระ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ และน.ส.นัฏฐิกา โล่ห์วีระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ชัยภูมิ  พรรคก้าวไกล

 

ขณะที่ทางด้านผู้นำชุมชน บ้านกุดละลมซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้านยื่นหนังสือข้อร้องเรียน แนวทางแก้ไขปัญหาการทับ ถม ที่ดิน ขวางคลองระบายน้ำ ทางธรรมชาติต่างๆซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งและเป็นสาเหตุหลักในการทำให้เกิดน้ำท่วมขัง และจนเกิดสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปัจจุบันนี้ ผ่านไปยัง น.ส.วรรณวิภา ไม้สน รองปธ.กมธ.พัฒนาสังคม พรรคก้าวไกล และคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล นำไปพิจารณาช่วยหาทางแก้ไขทั้งยังช่วยกระตุ้นให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดได้เร่งแก้ไข ปัญหานี้อย่างจริงจัง และอย่างยั่งยืนต่อไป

 

 

ล่าสุด(15) ทางคณะสส.พรรคได้เดินทางลงสำรวจรับฟัง ปัญหาความเดือดร้อนของ พี่น้องประชาชนชุมชนบ้านกุดแคน อำเภอเมืองชัยภูมิ และผู้ป่วยกลุ่มปรอกบาง โดยนำสิ่งของที่จำเป็นมอบให้แทนกำลังใจ
ก่อนที่จะเดินทางมารับฟังปัญหา ของชาวเกษตรกรไร่มันสำปะหลัง ที่บ้านหัวหนอง ตำบล ชีลอง อ.เมืองชัยภูมิ

 

นายสุเทพ อู่อั้น สส.พรรคก้าวไกล ตำแหน่ง ปธ.กมธ.แรงงาน
วันนี้ ทางคณะได้มาดูไร่มันสำปะหลังของชาวบ้าน ตำบลชีลองอำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำฝนที่ตกต่อเนื่องลงมา ทำให้ ไร่มันของชาวบ้านเกิดหัวมันเน่า ไม่ออกผลผลิต และไม่ได้รับ การดูแลอย่างเป็นระบบ ทั้งยังได้รับทราบข้อมูลจากประชาชนในบางส่วนที่ยังไม่ได้รับระบบรัฐสวัสดิการ ซึ่งปัจจุบันนี้มีเพียงบัตรคนจน และก็ไม่ทั่วถึงด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทางพรรคเองซึ่งมีนโยบายการยกระดับระบบรัฐสวัสดิการ
หากเกิดภัยพิบัติจากโควิด หรือเกิดภัยแล้งน้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้สามารถอยู่ได้ ถ้าขีดฆ่าเส้นความยากจนนั่นคือเดือนละ 3,000 บาท  ส่วนข้อเรียกร้องของประชาชนชาวชัยภูมิในครั้งนี้ จะมอบให้น.ส.นัฏฐิกา โล่ห์วีระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ชัยภูมิ เป็นตัวแทนพรรคก้าวไกลรวบรวมรับเรื่องราวความเดือดร้อนของชาวบ้านทั้งหมดนี้ เพื่อที่จะเอาเข้าสู่รัฐสภาฯ ซึ่งช่องทางการนำเข้าสู่สภาคือ ปรึกษาหารือ  และก็ทำหนังสือปรึกษาหารือ เมื่อดำเนินการแล้วเรื่องราวเหล่านี้ก็จะกลับลงมาสู่พื้นที่ เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ดำเนินการแก้ไขและรายงานการปฏิบัติเป็นระยะ ว่าแนวทางแก้ไขให้กับพี่น้องประชาชน ที่เดือดร้อน มีความคืบหน้า ในการแก้ปัญหาว่าเป็นอย่างไร และอยู่ในระดับไหนแล้ว นี่คือสิ่งที่เราและคณะพรรคก้าวไกลลงมาทำตลอดทั้ง2 ในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิโดยต่อจากนี้จะได้เดินทางไปที่จังหวัดขอนแก่นเพื่อที่จะรับฟัง สำรวจความเดือดร้อนของประชาชนชาวขอนแก่นติดต่อไปด้วย

 

 

ขณะที่น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.พรรคก้าวไกล ตำแหน่งรองปธ.กมธ.พัฒนาสังคม ได้สรุปหลังจากทางคณะ สส.พรรคก้าวไกลได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังความเดือดร้อน สำรวจความเสียหาย และเข้าเยี่ยมผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ทั้ง2วัน จึงได้รับทราบจากปากชาวบ้าน ในเบื้องต้นถึงปัญหาหลักจากชาวบ้านที่ต้องมายืนหนังสือร้องเรียน จากประชาชนในเรื่องการปล่อยให้นายทุน ทับ ถม ที่ดินขวางทางไหลของน้ำ ทั้งยังพบว่าในพื้นที่ที่นอกเหนือจากพื้นที่น้ำท่วม ยังทำการลงพื้นที่ดูพื้นที่ลุ่มที่ดอนพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายพบว่า มีปัญหาที่ได้พบแตกต่างหลากหลายกันไปแต่ละพื้นที่

 

โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเข้าไปในบ้านเรือนประชาชนหรือพื้นที่การเกษตร พบว่าเมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่จนถึงปัจจุบันนี้พื้นที่ดังกล่าวก็ยังกลายเป็นพื้นที่รับน้ำที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปถึง 10 ปีแล้วก็ตาม บวกกับสภาวะที่คาดว่า น่าจะแย่กว่าเก่าเนื่องจากมีการถมดิน ในพื้นที่เส้นทางน้ำ จากการวางแผนงานของผังเมือง จึงให้การสรุปได้ว่าน่าจะมีการ ปรับปรุงหรือหาแนวทางแก้ไข ทุกหน่วยงาน ต้องมาตกลงและพูดคุยหาข้อชัดเจนให้ได้ว่า จะให้ความร่วมมือและแก้ไขไปในทิศทางใด อีกครั้งในเรื่องของการเยียวยา ในบางพื้นที่ชาวบ้านยังไม่มีผู้มาสำรวจยังไม่ทราบเรื่องของการเยียวยา ในขณะที่น้ำแห้งมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ก็ยังไม่มีใครคนไหนเข้ามาทำการสำรวจความเสียหาย ฉะนั้นการลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจึงต้องเป็นเรื่องที่เร่งด่วนเพราะไม่ใช่ไม่ใช่เพียงแค่บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายในส่วนของพื้นที่การเกษตรนาข้าวที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งรวมทั้งจังหวัดแล้วมีไม่น้อยกว่า 1 ล้านไร่ อีกครั้งที่ไม่ควรมองข้ามคือผลกระทบที่ได้รับจากปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าปกติอย่างเช่นไร่มันสำปะหลัง ถึงแม้ว่าน้ำจะไม่ท่วมในพื้นที่ไร่มันแต่ความหนาแน่นของน้ำฝนที่ลงมา ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้ไม่ตามจำนวนหรือเปอร์เซ็นต์ที่ควรจะเป็น และที่ซ้ำหนักคือโครงการของมันสำปะหลังไม่ได้มีการเปิดประกันราคาใดๆเลยให้กับเกษตรกร การกำหนดราคาซื้อขายจึงเป็นเรื่องของพ่อค้าคนกลางที่จะเป็นคนกำหนดราคา จึงเป็นการตอกย้ำเกษตรกรในสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เช่นนี้อีกด้วยฉะนั้นแนวทางในการบริหารงาน จึงเป็นนโยบายโครงสร้างที่ต้องกำหนดลงไป เพื่อผลักดันเป็นนโยบายเพื่อช่วยประชาชนเกษตรกรชาวไร่ชาวนาต่อไป

ซึ่งจากการลงพื้นที่มาที่ชัยภูมิทั้ง 2 วันนี้ ภาพรวมในการแก้ปัญหา ต้องวางแนวทางเป็นเครื่องโครงสร้างทั้งระบบไม่สามารถที่จะเลือกแก้ไขทีละประเด็นหรือทีละจุดเล็กๆได้ มิฉะนั้นแล้วกัดได้รับการแก้ไขก็จะไม่จบสิ้น

การวางนโยบายเพื่อช่วยพี่น้องเกษตรกร คงจะต้องเป็นเรื่องที่สำคัญไม่ว่าพรรคใดที่จะเข้ามาดูแล ในเรื่องของเกษตรกรก็คงที่จะต้องเป็นเรื่องที่สำคัญ อันดับต้นๆ จึงต้องถูกบรรจุไว้ในนโยบายหลัก โดยต้องเน้นในเรื่องของสวัสดิการพื้นฐาน เนื่องจากมีเสียงสะท้อนจากหลายพื้นที่ว่ากรณีเกิดเหตุภัยพิบัติเช่นนี้ ไม่มีสิ่งใดเข้ามารองรับความเสี่ยงให้เกษตรกรเลย ได้เพียงแค่นั่งรอภาครัฐเข้ามาเยียวยาและต้องลุ้นว่าจะได้รับการช่วยเหลือการเยียวยาจากภาครัฐเท่าไหร่ ฉะนั้นในเรื่องของสวัสดิการพื้นฐานจะมีส่วนเข้ามาเพื่อเป็นการรองรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ให้เกษตรกรได้ครับผ่านความบอบช้ำได้น้อยที่สุดและเป็นไปในมาตรฐานเดียวกันของความเป็นเกษตรกรไทย โดยจะมอบหมายให้
น.ส.นัฏฐิกา โล่ห์วีระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ชัยภูมิ เป็นตัวแทนพรรคก้าวไกลรับเรื่องราวความเดือดร้อนของชาวบ้าน เพื่อที่จะรวบรวมแล้วนำส่งเสนอพรรคเพื่อหารือก่อนนำเข้าสภาฯ เพื่อให้หาแนวทางการแก้ไขให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดชัยภูมิต่อไปอีกด้วย///

 

ทีมข่าวการเมือง

CNT:CH-NEWSTHAILAND
พื้นที่ข่าวทั่วไทย ออนไลน์ทั่วโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง